แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้ตามบันทึกข้อตกลงในสำเนารายงานประจำวัน ระบุว่า โจทก์จะไม่เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูจากจำเลยอีกนั้น ข้อตกลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นการสละสิทธิที่จะเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา 1598/41 ข้อตกลงในส่วนนี้จึงใช้บังคับมิได้ จำเลยยังคงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรผู้เยาว์ จึงต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่บุตรผู้เยาว์ทั้งสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าเด็กหญิง น. และเด็กชาย น. เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย ให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่เด็กหญิง น.และเด็กชาย น. ยังเป็นเงินจำนวน 1,360,000 บาท และให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิง น. นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ สำหรับปี 2552 ถึง 2548 เดือนละ 40,000 บาท บาท ปี 2549 ถึง 2564 เดือนละ 50,000 บาท ปี 2565 ถึง 2566 เดือนละ 60,000 บาท และให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย น. ยังนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ สำหรับปี 2552 ถึง 2560 เดือนละ 40,000 บาท ปี 2561 ถึง 2566 เดือนละ 50,000 บาท ปี 2567 ถึง 2568 เดือนละ 60,000 บาท
จำเลยให้การขอให้พิพากษาว่าบุตรทั้งสองเป็นบุตรของจำเลย คำขออื่นให้ยก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เด็กหญิง น. และเด็กชาย น. ผู้เยาว์ทั้งสองเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลย คำขออื่นให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองแก่โจทก์คนละ 5,000 บาทต่อเดือน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในส่วนที่พิพากษาว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของจำเลยถึงที่สุดจนกว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองแก่โจทก์เพิ่มอีกหรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้ ตามบันทึกข้อตกลงในสำเนารายงานประจำวัน ระบุว่า โจทก์จะไม่เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูจากจำเลยอีกนั้น ข้อตกลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นการสละสิทธิที่จะเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/41 ข้อตกลงในส่วนนี้จึงใช้บังคับมิได้ จำเลยยังคงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรผู้เยาว์ทั้งสอง จึงต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่บุตรผู้เยาว์ทั้งสอง เมื่อพิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูและค่าใช้จ่ายในการศึกษาบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจนกว่าจะจบชั้นปริญญาตรีเป็นเวลาอีกสิบกว่าปี ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นตามวัย และโจทก์ทำงานมีรายได้พอที่จะเลี้ยงตนเองได้เท่านั้น ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายของบุตรผู้เยาว์ทั้งสองได้ ประกอบกับได้ความตามรายงานแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีครอบครัวของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร (มีนบุรี) ว่า ปัจจุบันจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ซี.ที.เอ็น.ชิปปิ้ง จำกัด ได้รับเงินเดือน เดือนละ 15,000 บาท ในช่วงเศรษฐกิจดี บริษัทมีรายได้ปีละ 2,000,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับเงินปันผลปีละเท่าใด นอกจากนี้จำเลยฎีกาว่า ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองควรเป็นเงิน 190,000 บาทต่อปี เมื่อคำนวณระยะเวลา 10 ปี เป็นเงิน 1,900,000 บาท แต่บุตรคนเล็กอายุเพียง 5 ปีเท่านั้น กว่าจะเรียนจบชั้นปริญญาตรี ค่าอุปการะเลี้ยงดู 2,000,000 บาท ที่จำเลยมอบให้แก่โจทก์ ย่อมไม่เพียงพอแน่นอน ฉะนั้น เมื่อพฤติการณ์ รายได้หรือฐานะของจำเลยได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจึงสมควรที่จะแก้ไขให้เพิ่มค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสอง แต่ได้ความตามคำเบิกความของจำเลยว่า ปัจจุบันจำเลยมีภริยาใหม่และมีบุตรที่เกิดกับภริยาใหม่อีกหนึ่งคน จำเลยจึงมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูภริยาและบุตรคนใหม่ด้วย มิใช่มีหน้าที่เพียงอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเท่านั้น เมื่อคำนึงถึงรายได้ของจำเลยกับรายจ่ายในครอบครัวของจำเลย ตลอดจนความจำเป็นทางด้านการเงินของผู้เยาว์ทั้งสอง อายุและระดับการศึกษาของผู้เยาว์ทั้งสองแล้ว เห็นสมควรกำหนดให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเพิ่มอีกคนละ 4,000 บาทต่อเดือน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยบางส่วน ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองแก่บุตรทั้งสอง คนละ 4,000 บาทต่อเดือน นับแต่วันที่คำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่พิพากษาว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลยถึงที่สุด จนกว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ