คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4781/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกโจทก์ให้ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทให้ครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่ทราบคำสั่ง และศาลชั้นต้นส่งหมายนัดแจ้งคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้โจทก์ทราบโดยชอบแล้ว โดยวิธีรับหมายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 แต่โจทก์มิได้ดำเนินการชำระค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ให้ครบถ้วนภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจึงถือว่า โจทก์ทิ้งอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความตาม ป.วิ.พ. 132 (1) นั้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งอุทธรณ์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับอุทธรณ์นั่นเอง ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับอุทธรณ์แล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์โดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนคืนการให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 23565 เพราะเหตุประพฤติเนรคุณ จำเลยให้การต่อสู้คดี ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า โจทก์ฟ้องเพิกถอนคืนการให้ที่ดินพิพาทแก่โจทก์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ผู้อุทธรณ์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท แต่โจทก์ผู้อุทธรณ์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาเพียง 200 บาท จึงให้ศาลชั้นต้นดำเนินการเรียกโจทก์ผู้อุทธรณ์เสียค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ศาลชั้นต้นหมายแจ้งคำสั่งให้โจทก์ผู้อุทธรณ์เสียค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยส่งหมายให้แก่โจทก์ได้โดยวิธีรับหมายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 ครบกำหนดที่จะต้องเสียค่าขึ้นศาลเพิ่มในวันที่ 8 ธันวาคม 2548 แต่โจทก์มิได้ดำเนินการเสียค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องครบถ้วน ศาลชั้นต้นรวบรวมสำนวนส่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก่อนศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ภาค 3 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2548 โจทก์ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์และทนายโจทก์ได้รับหมายแจ้งคำสั่งให้เสียค่าขึ้นศาลเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 จึงครบกำหนดเวลาที่โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในวันที่ 8 ธันวาคม 2548 แต่โจทก์ไม่เสียค่าขึ้นศาลภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่ล่วงเลยกำหนดเวลาชำระค่าขึ้นศาลแล้ว โจทก์ไม่อาจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาอีกได้ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า ศาลชั้นต้นมีหมายแจ้งคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่ยังขาดอยู่ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เรียกให้ชำระภายใน 15 วัน ซึ่งครบกำหนดเวลาที่โจทก์จะต้องชำระค่าขึ้นศาลภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2548 โจทก์ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2548 ซึ่งเกินกำหนดเวลาที่โจทก์อาจชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ได้แล้ว คำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นชอบแล้ว และศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากโจทก์เพิ่มตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทให้ครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่ทราบคำสั่ง ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดแจ้งคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้โจทก์ทราบโดยชอบแล้ว โดยวิธีรับหมายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 แต่โจทก์มิได้ดำเนินการนำค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลให้ครบถ้วนภายในกำหนดระยะเวลา จึงถือว่า เป็นการทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 (1)
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกโจทก์ให้ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทให้ครบถ้วนภายใน 15 วัน นับแต่ทราบคำสั่ง และศาลชั้นต้นส่งหมายนัดแจ้งคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้โจทก์ทราบโดยชอบแล้ว โดยวิธีรับหมายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 แต่โจทก์มิได้ดำเนินการชำระค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์ให้ครบถ้วนภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว จึงถือว่า โจทก์ทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 246 และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132 (1) นั้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งอุทธรณ์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับอุทธรณ์นั่นเอง ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับอุทธรณ์แล้ว โจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์โดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้ ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง คำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คำร้องอุทธรณ์คำสั่งหรือฎีกาคำสั่งในชั้นไต่สวนอนาถานี้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคท้าย ที่โจทก์เสียค่าคำร้องและค่าคำร้องฎีกาคำสั่งในชั้นไต่สวนอนาถานี้โดยที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ค่าคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาที่โจทก์เสียมาเป็นพับแก่โจทก์นั้นยังไม่ถูกต้อง เห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องและเห็นสมควรคืนค่าคำร้องฎีกาคำสั่งที่โจทก์เสียมาให้แก่โจทก์ด้วย”
พิพากษายืน ให้คืนค่าคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาและค่าคำร้องฎีกาคำสั่งให้แก่โจทก์

Share