แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินของโจทก์ทั้งสี่เนื้อที่ 165 ตารางวา อยู่ในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางพิเศษตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 และคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นฯ ได้กำหนดเงินค่าทดแทนที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์ทั้งสี่ ซึ่งจำเลยได้นำเงินค่าทดแทนที่ดินดังกล่าวไปวางโดยฝากธนาคารออมสินไว้และแจ้งให้โจทก์ทั้งสี่ทราบแล้ว กรณีเช่นนี้ตามมาตรา 11 วรรคสอง ประกอบมาตรา 13 วรรคสองและวรรคท้าย ให้ถือว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโจทก์ทั้งสี่เนื้อที่ 165 ตารางวา เป็นของจำเลยแล้วตั้งแต่วันที่วางเงินค่าทดแทนที่ดินดังกล่าว แม้ภายหลังจะมีการออกพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 6 อีกฉบับ และคณะรัฐมนตรี มีมติให้ปรับเปลี่ยนแนวเขตทางพิเศษใหม่ เป็นเหตุให้ที่ดินดังกล่าวอยู่ในแนวเขตทางพิเศษที่เปลี่ยนแปลงใหม่นี้เพียง 42 ตารางวา ลดลงจากเดิม 123 ตารางวา ตามคำร้องขอให้งดการบังคับคดีของจำเลยก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้ที่ดินเนื้อที่ 123 ตารางวา ที่ไม่ได้อยู่ในแนวเขตทางพิเศษใหม่ดังกล่าว ซึ่งตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยสมบูรณ์แล้ว กลับคืนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิมอีก และไม่มีกฎหมายใดที่ให้สิทธิหรืออำนาจจำเลยคืนที่ดินที่เวนคืนไปแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนแก่โจทก์ทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดิม และเรียกเงินค่าทดแทนที่ดินที่จ่ายไปคืนจากโจทก์ทั้งสี่ หรือขอหักลบกันกับเงินค่าทดแทนที่ดินที่ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเพิ่มขึ้นแก่โจทก์ทั้งสี่ จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอให้งดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 293
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยชำระเงินค่าทดแทนที่ดินที่ถูกเวนคืนเนื้อที่ ๑๖๕ ตารางวา เพิ่มขึ้นอีกเป็นเงิน ๖,๖๐๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ทั้งสี่ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๘.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๓๖ ถึงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๖ อัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๓๖ ถึงวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๖ อัตราร้อยละ ๗ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๖ ถึงวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๓๗ อัตราร้อยละ ๖.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๓๗ ถึงวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๓๗ และอัตราร้อยละ ๗ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๓๗ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ทั้งนี้ดอกเบี้ยดังกล่าวให้เป็นไปตามอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินกับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสี่ โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๑๐,๐๐๐ บาท คำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดการบังคับคดี อ้างเหตุว่า ที่ดินของโจทก์ทั้งสี่ถูกเวนคืนเนื้อที่ ๑๖๕ ตารางวา แต่ก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา จำเลยได้ปรับเปลี่ยนแนวเขตทางพิเศษใหม่ทำให้ที่ดินของโจทก์ทั้งสี่ถูกเวนคืนเพียง ๔๒ ตารางวา ดังนั้น จำเลยจึงควรจ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินให้แก่โจทก์ทั้งสี่ตามความเป็นจริงคือ ๔๒ ตารางวา ซึ่งเงินค่าทดแทนที่ดินจะลดน้อยลงตามส่วน ดังนั้น เงินค่าทดแทนที่ดินที่โจทก์ทั้งสี่ได้รับไปก่อนแล้วมากกว่าที่จะได้รับตามความเป็นจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า “ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ไม่มีเหตุที่จะงดการบังคับคดี หากได้ความว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเนื้อที่ที่ถูกเวนคืน จำนวนเงินค่าทดแทนเปลี่ยนแปลงไป จำเลยต้องว่ากล่าวเป็นคดีใหม่ ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ”
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา