คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4745/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 เป็น ผู้จัดการมรดกร่วมกัน ต่อมาในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ผู้ร้องถึงแก่มรณะ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะ ผู้ร้องผลจึงเท่ากับมรดกของเจ้ามรดกคงมีแต่เพียงผู้คัดค้านที่ 1เป็นผู้จัดการมรดกคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 6 การที่ผู้ร้องอ้างพินัยกรรมเอกสารหมาย จ.5 ก็เพื่อขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก แต่เมื่อไม่ได้มีผู้ร้องเป็นคู่ความพิพาทกับผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6โดยอ้างพินัยกรรมดังกล่าวต่อไปแล้วคดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึงพินัยกรรมฉบับนั้นอีก หากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกประการใดก็เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่าผู้ร้องเป็นบุตรขุนสมบัติพิทักษ์และนางสมบัติพิทักษ์ (นางตลับ มณีวัต) ผู้ร้องมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 5 คน นางตลับ มณีวัต ตายปี 2525 โดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ขุนสมบัติพิทักษ์ตายวันที่ 12 พฤศจิกายน 2529 โดยทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก แต่ข้อกำหนดพินัยกรรมบางข้อไม่สมบูรณ์ไม่สามารถจัดการมรดกตามข้อกำหนดในพินัยกรรมได้ ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของขุนสมบัติพิทักษ์ และนางตลับ มณีวัต
ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ยื่นคำร้องคัดค้านว่า พินัยกรรมที่ผู้ร้องอ้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ร้องไม่อาจอาศัยพินัยกรรมดังกล่าวร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ขุนสมบัติพิทักษ์และนางตลับมณีวัต ร่วมกันทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้ผู้คัดค้านทั้งหกในฐานะทายาทโดยธรรมและในฐานะผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรม ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของขุนสมบัติพิทักษ์และนางตลับ มณีวัต
ผู้คัดค้านที่ 7 ที่ 8 ยื่นคำร้องคัดค้านและแก้ไขคำร้องคัดค้านว่า พินัยกรรมที่ผู้ร้องอ้างเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นโมฆะ ทรัพย์สินในพินัยกรรมบางส่วนไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ทำพินัยกรรมผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกและพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 23 ตุลาคม 2523 ที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 อ้างถูกเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 23 มิถุนายน 2526 ซึ่งขุนสมบัติพิทักษ์ยกทรัพย์ให้ผู้คัดค้านที่ 7 และตั้งผู้คัดค้านที่ 8เป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านที่ 7 เป็นบุตรขุนสมบัติพิทักษ์และนางตลับ มณีวัต ผู้คัดค้านที่ 8 เป็นหลานเจ้ามรดกทั้งสอง และเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม จึงขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่ 8 เป็นผู้จัดการมรดกของขุนสมบัติพิทักษ์และนางตลับ มณีวัต
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของขุนสมบัติพิทักษ์และนางสมบัติพิทักษ์ (นางตลับมณีวัต) ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ยกคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 7 ที่ 8
ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ผู้ร้องมรณะ ร้อยตำรวจตรีหญิงนงเยาว์ เสมรอด ขอเข้าเป็นคู่ความแทน อ้างว่าเป็นพี่สาวของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งว่า การเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัวให้ยกคำร้อง และให้จำหน่ายคดีเฉพาะผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่ 1 ถึง ที่ 6
ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ฎีกาขอให้ศาลมีคำสั่งว่า พินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.5 เป็นโมฆะนั้น เห็นว่าคดีนี้ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ต่างขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดก โดยต่างอ้างว่ามีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมคนละฉบับ ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยถึงประเด็นว่าพินัยกรรมฉบับใดมีผลสมบูรณ์บังคับได้ตามกฎหมายเพื่อพิจารณาสั่งตั้งบุคคลเป็นผู้จัดการมรดก ในที่สุดศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ต่อมาในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ปรากฏว่าผู้ร้องถึงแก่มรณะศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะผู้ร้อง เพราะการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ร้องสิ้นสุดลง ไม่ใช่กรณีจะให้ผู้ใดเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ร้องได้เนื่องจากเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้ร้องดังนี้ ผลจึงเท่ากับมรดกของเจ้ามรดกดังกล่าวคงมีแต่เพียงผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ตามที่ได้ยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกไว้แต่ต้นนั่นเอง การที่ผู้ร้องอ้างพินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.5 ก็เพื่อขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ในขณะนี้ไม่ได้มีผู้ร้องเป็นคู่ความพิพาทกับผู้คัดค้านที่ 1ถึงที่ 6 โดยอ้างพินัยกรรมดังกล่าวต่อไปแล้ว คดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึงพินัยกรรมฉบับนั้นอีก หากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกประการใดก็เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาการขอเป็นผู้จัดการมรดกในคดีนี้ของผู้คัดค้านที่ 1 ตามที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 6 ต้องการ
พิพากษายืน.

Share