คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6318/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่ดินพิพาทของโจทก์อยู่ในวงล้อมของที่ดินจำเลย จำเลยได้ขุดตักดินในที่ดินของจำเลยรอบ ๆ ที่ดินโจทก์ แล้วพยายามซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ในราคาต่ำแต่โจทก์ไม่ยอมขายจำเลยจึงลักขุดตักดินของโจทก์ไป แม้จำเลยจะประกอบธุรกิจจัดสรรที่ดินหลายโครงการ แต่ก็ส่อให้เห็นได้ว่าเป็นการประกอบธุรกิจที่มุ่งเอาแต่ได้ โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ตามพฤติการณ์ดังกล่าว จึงยังไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วลักเอาหน้าดินของโจทก์ไป โดยเจตนาทุจริตขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) ประกอบวรรคสอง (ที่ถูกมาตรา 335(1)วรรคแรก) ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และปรากฏว่าจำเลยได้นำดินมาถมที่ดินพิพาทเต็มแล้ว เป็นการบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปีปรับ 5,000 บาท จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบธุรกิจการงานเป็นหลักฐานมีส่วนช่วยเหลือทำประโยชน์ต่อสังคม มีเหตุอันควรปรานี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
โจทก์ฎีกาขอไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ยุติว่า ในวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยได้ลักเอาดินของโจทก์โดยจำเลยให้คนงานนำรถแทรกเตอร์เข้าไปขุดตักเอาหน้าดินในที่ดินของโจทก์ลึกประมาณ 3 เมตรยาวประมาณ 115 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร ไปจำนวน 5,175 ลูกบาศก์เมตรปัญหาตามฎีกาของโจทก์มีว่า คดีมีเหตุรอการลงโทษให้จำเลยดังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ เห็นว่า จำเลยมีอาชีพจัดสรรที่ดินและบ้าน จำเลยซื้อที่ดินพิพาทโดยใส่ชื่อนางสาวสายใจ โรจนสุรศักดิ์ภรรยาน้อยของจำเลยเพื่อใช้ในธุรกิจการจัดสรร ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2528 จำเลยให้นางสาวสายใจขายฝากที่ดินพิพาทแก่โจทก์มีกำหนด 6 เดือน แล้วมิได้ไถ่คืนในกำหนด ที่ดินพิพาทไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะเพราะอยู่ในวงล้อมของที่ดินจำเลย จำเลยได้ขุดตักดินในที่ดินของจำเลยรอบ ๆ ที่ดินพิพาท เพื่อนำไปถมที่ดินจัดสรรโครงการอื่นแล้วพยายามขอซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์ในราคาต่ำ แต่โจทก์ไม่ยอมขาย ต่อมาจึงเกิดเหตุในคดีนี้ เห็นได้ว่านอกจากจำเลยจะขุดเอาดินของจำเลยที่อยู่รอบ ๆ ที่พิพาทอันเป็นเหตุให้ที่ดินพิพาทราคาตกต่ำ แล้วขอซื้อแบบกดราคา เมื่อโจทก์ไม่ยอมขายก็มาลักเอาดินของโจทก์ไปแม้จำเลยจะประกอบธุรกิจจัดสรรที่ดินหลายโครงการ แต่ก็ส่อให้เห็นได้ว่าเป็นการประกอบธุรกิจที่มุ่งเอาแต่ได้โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในการกระทำความผิดดังกล่าว จึงยังไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่รอการลงโทษให้ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น แต่โทษที่ศาลอุทธรณ์กำหนดไว้นั้นสูงเกินไป เห็นสมควรกำหนดให้ต่ำลงโดยไม่ปรับอีกสถานหนึ่ง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และปรากฏว่าจำเลยได้นำดินมาถมที่ดินพิพาทเต็มแล้วเป็นการบรรเทาผลร้ายแห่งความผิด มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย6 เดือน โดยไม่ปรับและไม่รอการลงโทษให้จำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share