แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2528 มาตรา 10 บัญญัติให้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ดังนั้น การที่จำเลยมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองจึงเป็นความผิดต่อบทกฎหมายมาตราเดียวกันตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดเพียงกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยฐานมีฝิ่นดิบและมีมูลฝิ่นเป็น 2กรรมเป็ฯการไม่ชอบ แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันเสพฝิ่นมีฝิ่นดิบและมีมูลฝิ่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 17, 58, 69,91, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 มาตรา 3,4, 6, 10 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 ริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ให้การปฏิเสธโดยให้โจทก์ฟ้องเป็นคดีใหม่
ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อมาเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8,17, 58, 69, 91, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528มาตรา 3, 4, 6, 10 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 เรียงกระทงลงโทษฐานร่วมกันเสพฝิ่นจำคุก 6 เดือนฐานร่วมกันมีฝิ่นดิบจำคุก 3 ปีฐานร่วมกันมีมูลฝิ่นจำคุก 3 ปีรวม 6 ปี 6 เดือนลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 3 ปี3 เดือนของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานมีฝิ่นดิบจำคุก 6 เดือนฐานมีมูลฝิ่นจำคุก 6 เดือนรวมจำคุก 1 ปีจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่งจำคุก6 เดือนรวมกับความผิดฐานเสพฝิ่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นคงจำคุก9 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าปรากฏว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานมีฝิ่นดิบจำคุก 6 เดือนและฐานมีมูลฝิ่นจำคุก 6 เดือนนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายกล่าวคือความผิดฐานมีฝิ่นและมีมูลฝิ่นในคดีนี้ต้องบังคับตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 ซึ่งมาตรา 10 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติว่าในขณะที่ไม่มีประกาศให้ฝิ่นมูลฝิ่นหรือพันธุ์ฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทใดให้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นตามกฎหมายว่าด้วยฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 7 ดังนั้นการที่จำเลยมีฝิ่นดิบและมีมูลฝิ่นจึงเป็นความผิดต่อกฎหมายมาตราเดียวกันตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่งจึงต้องลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่นเพียงกรรมเดียวที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ 2 ทั้งฐานมีฝิ่นดิบและฐานมีมูลฝิ่นเป็น 2 กรรมจึงไม่ชอบซึ่งแม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 17, 69 วรรคหนึ่งฐานมีฝิ่นดิบกับมูลฝิ่นจำคุก 6 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่งจำคุก 3 เดือนเมื่อรวมกับความผิดฐานเสพฝิ่นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คงจำคุก 6 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.