คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ทนายจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีด้วยเหตุเพียงแต่ได้รับแจ้งจากทางสำนักงานว่าจำเลยที่ 2 ติดธุระจำเป็นอย่างรีบด่วนเท่านั้น ซึ่งทนายจำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้พบกับจำเลยที่ 2 และธุระจำเป็นอย่างรีบด่วนตามที่อ้างก็ไม่ปรากฏว่าเป็นอะไร ทั้งปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานจำเลยที่ 2 ไว้ล่วงหน้าราวหนึ่งเดือนครึ่งอันเป็นเวลานานพอสมควร ประกอบกับในวันนัดนั้นจำเลยที่ 2ก็ไม่ได้เตรียมพยานอื่นมาเลย พฤติการณ์ดังกล่าวถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนคดีดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2 ให้การว่าไม่ได้ทำละเมิดโจทก์ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วให้นัดสืบพยานจำเลยที่ 2 เมื่อถึงวันนัดจำเลยที่ 2 ขอเลื่อน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต และถือว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีพยานมาสืบ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 โดยให้กลับคืนมาเป็นของโจทก์ คำขออื่นให้ยก จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 มีว่าสมควรให้จำเลยที่ 2 เลื่อนคดีหรือไม่ ปรากฏตามสำนวนว่าทนายจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในวันนัดสืบพยานจำเลยที่ 2 โดยอ้างเหตุว่า ทนายจำเลยที่ 2 ได้รับแจ้งจากทางสำนักงานว่าจำเลยที่ 2 ซึ่งจะต้องมาเบิกความในวันนั้นติดธุระจำเป็นอย่างรีบด่วน ไม่สามารถเดินทางจากจังหวัดระยองเพื่อเบิกความในวันนั้นได้ และแถลงตามที่ศาลสอบถามว่าธุระจำเป็นอย่างรีบด่วนของจำเลยที่ 2 จะเป็นเรื่องอะไร ทนายจำเลยที่ 2 ไม่สามารถทราบได้ เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วางหลักเรื่องการขอเลื่อนการนั่งพิจารณาหรือเลื่อนคดีไว้ว่าคู่ความฝ่ายที่ขอเลื่อนต้องมีเหตุจำเป็น สำหรับกรณีของจำเลยที่ 2 นี้ทนายจำเลยที่ 2 เพียงแต่ได้รับแจ้งจากทางสำนักงานว่าจำเลยที่ 2 ติดธุระจำเป็นอย่างรีบด่วนเท่านั้น ซึ่งทนายจำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้พบหรือพูดคุยกับจำเลยที่ 2 เอง เป็นแต่เพียงได้รับแจ้งจากทางสำนักงานเท่านั้น และธุระจำเป็นอย่างรีบด่วนตามที่อ้างก็ไม่ปรากฏว่าเป็นอะไรหรืออย่างไร กับปรากฏด้วยว่าศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานจำเลยที่ 2 ไว้ล่วงหน้าราวเดือนครึ่งนับว่าเป็นเวลานานพอสมควรประกอบกับในวันนัดนั้น จำเลยที่ 2 ก็มิได้เตรียมพยานอื่นมาเลยพฤติการณ์ดังกล่าวถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนคดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 2 เลื่อนคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share