คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4726/2562

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ได้สิทธิความเป็นเจ้าของรวมในที่ดินในฐานะผู้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 10 ตามคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 10 โอนที่ดินส่วนของจำเลยที่ 10 แก่โจทก์ ย่อมหมายความว่า สิทธิในที่ดินของจำเลยที่ 10 มีอยู่ในขณะที่จะขายเป็นต้นไปเพียงใด โจทก์ย่อมรับโอนสิทธิของจำเลยที่ 10 มาเพียงนั้น ซึ่งรวมถึงหน้าที่ของจำเลยที่ 10 ในฐานะเจ้าของรวมที่ต้องจดทะเบียนแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินส่วนที่จำเลยที่ 10 ครอบครองเป็นส่วนสัดให้แก่จำเลยที่ 1 และเจ้าของรวมคนอื่นตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ส.656/2549 ของศาลชั้นต้นด้วย ในฐานะที่โจทก์เป็นผู้สืบสิทธิของจำเลยที่ 10 ที่ต้องผูกพันตามผลของคดีดังกล่าว
การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสิทธิในที่ดินส่วนของจำเลยที่ 10 และถือเป็นคู่ความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ส.656/2549 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 10 หยิบยกข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 10 มิได้ตกลงยินยอมให้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันมากล่าวอ้างในคำฟ้องคดีนี้เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยทบทวนอีก ย่อมเป็นการซ้ำซ้อนกับข้อวินิจฉัยในคดีดังกล่าว และมีผลให้ขัดแย้งกับกระบวนการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วในคดีดังกล่าว เป็นการรื้อร้องฟ้องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยไปและถึงที่สุดแล้ว คดีโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 484 และให้จำเลยทั้งสิบสองและบริวารร่วมกันนำที่ดินตามโฉนดเลขที่ 33344 ถึง 33355, 33923 และ 34437 ถึง 34441 รวมทั้งโฉนดอื่น ๆ ที่แบ่งแยกออกมาจากโฉนดข้างต้น จดทะเบียนรวมเข้ากับที่ดินโฉนดเลขที่ 484 หากจำเลยทั้งสิบสองไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงที่ 10 และที่ 12 ให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 11 ให้การว่า การจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 484 ไม่ถูกต้องตามที่โจทก์ฟ้องจริงและทำให้จำเลยที่ 11 ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์
จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดเวลา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำให้การของจำเลยที่ 2
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 ถึงที่ 9 ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงที่ 12 และเอกสารท้ายคำแถลงของโจทก์ ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 ได้ความว่า เดิมที่ดินโฉนดเลขที่ 484 เป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 แล้วจำเลยที่ 1 ถึงที่ 10 ยื่นคำขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี สาขาปากเกร็ด ทำการรังวัด จดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินตามส่วนที่แต่ละคนครอบครองอยู่ และจำเลยเหล่านี้นำชี้ให้ช่างรังวัดของสำนักงานที่ดินทำการรังวัดแนวเขตที่จะแบ่งแยกเสร็จแล้ว แต่จำเลยที่ 10 ไม่ยอมไปดำเนินการจดทะเบียนแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมตามที่ได้รังวัดกันไว้ แล้วจำเลยที่ 10 ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 484 เฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ แต่ไม่อาจจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ได้เนื่องจากจำเลยที่ 1 ยึดถือโฉนดที่ดินไว้ โจทก์จึงยื่นฟ้องจำเลยที่ 10 บังคับให้จดทะเบียนโอนที่ดินแก่โจทก์ เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ส.1573/2548 หมายเลขแดงที่ ส.108/2549 ของศาลชั้นต้น คู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลให้ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม โดยจำเลยที่ 10 ตกลงจดทะเบียนโอนที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว ก่อนศาลมีคำพิพากษาตามยอมคดีนี้จำเลยที่ 1 ยื่นฟ้องจำเลยที่ 10 บังคับให้จดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 และเจ้าของรวมคนอื่นตามที่ครอบครองและรังวัดแบ่งแยกแล้ว เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ส.79/2549 หมายเลขแดงที่ ส.656/2549 ของศาลชั้นต้น ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 10 ดำเนินการจดทะเบียนแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 และเจ้าของรวมคนอื่น คดีถึงที่สุดแล้ว แต่จำเลยที่ 10 ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นโจทก์จึงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมที่ดินโดยถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 10 โจทก์จึงยื่นฟ้องคดีนี้
คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการเดียวว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขดำที่ ส.79/2549 หมายเลขแดงที่ ส.656/2549 ของศาลชั้นต้น ที่จำเลยที่ 1 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 10 เป็นจำเลยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ได้สิทธิความเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวในฐานะผู้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 10 การที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ส.1573/2548 หมายเลขแดงที่ ส.108/2549 ที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 10 โอนที่ดินส่วนของจำเลยที่ 10 ให้แก่โจทก์ ย่อมหมายความเพียงว่า สิทธิในที่ดินของจำเลยที่ 10 มีอยู่ในขณะที่จะขายเป็นต้นไปเพียงใด โจทก์ย่อมได้รับโอนสิทธิของจำเลยที่ 10 มาเพียงนั้น ซึ่งรวมถึงหน้าที่ของจำเลยที่ 10 ในฐานะเจ้าของรวมที่ต้องจดทะเบียนแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมด้วย เมื่อได้ความว่าต่อมาจำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของรวมคนหนึ่งยื่นฟ้องให้จำเลยที่ 10 จดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินตามส่วนที่เจ้าของรวมแต่ละคนครอบครองและมีการนำชี้แนวเขตให้รังวัดแบ่งแยกแล้ว จนศาลในคดีดังกล่าวมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ 10 ไปดำเนินการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 และเจ้าของรวมคนอื่น โดยฟังข้อเท็จจริงว่าเจ้าของรวมต่างประสงค์จะแบ่งแยกที่ดินตามส่วนสัดที่แต่ละคนครอบครอง จำเลยที่ 10 ในฐานะคู่ความในคดีจึงต้องผูกพันตามผลคำพิพากษาในคดีนั้น โจทก์ซึ่งรับโอนที่ดินส่วนของจำเลยที่ 10 ย่อมอยู่ในฐานะผู้สืบสิทธิของจำเลยที่ 10 ที่ต้องผูกพันตามผลของคดีดังกล่าวเช่นเดียวกัน ส่วนที่โจทก์อ้างในคำฟ้องและฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริงในทำนองว่า จำเลยที่ 10 มิได้ตกลงยินยอมให้แบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม เพื่อมิให้จำเลยที่ 10 ต้องผูกพันตามส่วนสัดและการแบ่งแยกกันครอบครองที่ดินซึ่งได้รังวัดแบ่งแยกกันไว้ระหว่างเจ้าของรวมด้วยกัน ล้วนแต่เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยที่ 10 สมควรให้การต่อสู้ในคดีดังกล่าว แต่มิได้กระทำเนื่องจากจำเลยที่ 10 ขาดนัดยื่นคำให้การ ทั้งจำเลยที่ 1 มิได้มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับโจทก์ จึงมิใช่หน้าที่ของจำเลยที่ 1 ต้องขอหมายเรียกโจทก์ให้เข้ามาต่อสู้คดีแทนจำเลยที่ 10 และไม่เป็นการที่จำเลยที่ 1 ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้สืบสิทธิในที่ดินส่วนของจำเลยที่ 10 และถือเป็นคู่ความในคดีเดิมดังกล่าวเช่นเดียวกับจำเลยที่ 10 หยิบยกข้อเท็จจริงดังกล่าวซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันมากล่าวอ้างในคำฟ้องยื่นเป็นคดีนี้เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยทบทวนอีก ย่อมเป็นการซ้ำซ้อนกับข้อวินิจฉัยในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ส.79/2549 หมายเลขแดงที่ ส.656/2549 เดิม และมีผลให้ขัดแย้งกับกระบวนการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วในคดีดังกล่าว เป็นการรื้อร้องฟ้องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยไปและคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นการมิชอบ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าคดีโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งดังกล่าวนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share