คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4189/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภาระจำยอมเป็นทรัพยสิทธิที่กฎหมายก่อตั้งขึ้นสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่จะต้องรับภารจำยอมคือเจ้าของทรัพย์ ผู้ร้องสอดเป็นเพียงผู้เช่าจึงไม่มีสิทธิที่จะกล่าวอ้างว่าที่พิพาทไม่ตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโจทก์ หากโรงเรือนที่ผู้ร้องสอดอาศัยอยู่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของโจทก์ ผู้ร้องสอดชอบที่จะไปว่ากล่าวแก่โจทก์เป็นคดีอื่น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่พิาพาทของจำเลยตกเป็นภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโจทก์โดยอายุความแล้ว ขอให้จำเลยรื้อถอนเสาที่ปักกั้นไว้ในที่พิพาทและไปจดทะเบียนว่าที่พิพาทเป็นภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ หากไม่ไปให้คือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจนนาของจำเลย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะอ้างว่าที่พิพาทตกเป็นภาระจำยอมโดยอายุความ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ผู้ร้องสอดเป็นผู้เช่าที่ดินบริเวณที่พิพาทดังกล่าวได้รับความกระทบกระเทือนในการครอบครองสถานที่ จึงขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่สามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๗ (๑) และขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องสอดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ร้องสอดจะเป็นผู้เช่าที่ดินบริเวณพิพาทจากจำเลยและผู้ร้องสอดมีสิทธิได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์ชั่วระยะเวลาที่เช่า แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๕ ประกอบด้วยมาตรา ๕๔๙ บัญญัติไว้ความว่า หากมีบุคคลผู้ใดมาก่อการรบกวนขัดสิทธิของผู้เช่าในอันจะครองทรัพย์สินโดยปกติสุข เพราะบุคคลผู้นั้นมีสิทธิเหนือทรัพย์สินที่ได้เช่ากันนั้น ผู้ให้เช่าจะต้องรับผิดในผลอันนั้น และมาตรา ๕๕๗ (๓) กับวรรคสุดท้ายบัญญัติไว้ความว่า ถ้าบุคคลภายนอกรุกล้ำเข้ามาในทรัพย์สินที่เช่า หรือเรียกอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเหนือทรัพย์สินที่เช่าให้ผู้เช่าแจ้งเหตุแก่ผู้ให้เช่าโดยพลัน ถ้าผู้เช่าละเลยเสียจะต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าในเมื่อผู้ให้เช่าต้องเสียหายเพราะความละเลยชักช้าของผู้เช่า แสดงว่าผู้เช่ามีสิทธิเพียงได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าเท่านั้น ส่วนเรื่องภาระจำยอมเป็นทรัพย์สิทธิที่กฎหมายก่อตั้งขึ้นสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่จะต้องรับภารจำยอมคือเจ้าของทรัพย์ผู้ร้องสอดเป็นเพียงผู้เช่า จึงไม่มีสิทธิที่จะกล่าวอ้างว่าที่พิพาทไม่ตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโจทก์ หากโรงเรือนที่ผู้ร้องสอดอาศัยอยู่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของโจทก์ ก็ชอบที่ผู้ร้องสอดจะไปว่ากล่าวแก่โจทก์เป็นคดีอื่น
พิพากษายืน

Share