คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่ 3 ว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ ผ. ซึ่งความจริงผู้เสียหายมิได้เป็นเมียน้อยของ ผ.แต่อย่างใดนั้น เป็นการบรรยายถึงการกระทำของจำเลยโดยกล่าวว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของ ผ.หาใช่โจทก์กล่าวสรุปวาจาหรือคำพูดของจำเลยเอาเองให้หมายความเช่นนั้นไม่ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ว่าจำเลยหมิ่นประมาทผู้เสียหายโดยพูดว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อย ผ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๘ เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาใส่ความนางสาวพยงค์ แตงขุด ผู้เสียหายต่อบุคคลที่ ๓ ว่า ผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของนายผิน การะภักดี ซึ่งความจริงผู้เสียหายมิได้เป็นเมียน้อยของนายผินแต่อย่างไร การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดตำบลพุทรา อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อความที่โจทก์หาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์มิได้บรรยายถ้อยคำพูดของจำเลยอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาท ไว้โดยบริบูรณ์ จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยได้บังอาจกล่าววาจาใส่ความนางสาวพยงค์ แตงขุด ผู้เสียหายต่อบุคคลที่ ๓ ว่า ผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของนายผิน การะภักดี ซึ่งความจริงผู้เสียหายมิได้เป็นเมียน้อยของนายผิน การะภักดี แต่อย่างใดนั้น เป็นการบรรยายถึงการกระทำของจำเลยโดยจำเลยกล่าวว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยของนายผิน การะภักดี หาใช่โจทก์กล่าวสรุปวาจาหรือคำพูดของจำเลยเอาเองให้หมายความเช่นนั้นไม่ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ว่าจำเลยหมิ่นประมาทผู้เสียหายโดยพูดว่าผู้เสียหายเป็นเมียน้อยนายผิน การะภักดี และฟังว่าข้อความที่จำเลยกล่าวน่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้จริง
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ ให้จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๕๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๑ ปี

Share