คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้คู่ความจะแถลงรับกันในประเด็นส่วนใหญ่ในฟ้อง แต่ยังไม่หมดประเด็นตามคำฟ้องและโจทก์ยังติดใจสืบพยานตามฟ้องอยู่อีก ดังนี้ศาลไม่ด่วนวินิจฉัยคดี โดยงดสืบพยาน ต้องสืบพยานเสียให้สิ้นกระแสความ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำนำที่ดินและคู่ความแถลงรับกันว่าได้จำนำที่ดินกันจริง มอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ยดังนี้แม้จะก่อนใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 3 ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการขายฝากมิได้เป็นการวินิจฉัยนอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยอ้างว่านายหอมบิดาจำเลยและนายปั่นอาวจำเลย ได้ทำสัญญาต่อเจ้าพนักงานที่ดิน จำนองไว้แก่บิดาโจทก์ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2466 ต่อมานายหอมได้มาขึ้นเงิน แล้วได้มอบกรรมสิทธิ์ให้ ก. บิดาโจทก์ครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้ว บิดาโจทก์ตาย โจทก์เป็นผู้รับมรดกได้ครอบครองต่อมา 21 ปีเศษคู่ความรับกันว่า นายหอมนายปั่นได้จำนำไว้แก่ ก. บิดาโจทก์ตามวันดังฟ้องและมอบนารายนี้ให้ ก. บิดาโจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยจน ก. ตาย โจทก์ได้ครอบครองต่อมา นายหอมนายปั่นไม่เคยทำนานี้แต่โจทก์จะขอสืบพยานตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานเห็นว่า จำนำกันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 พ.ศ. 2467 ต้องปรับตามประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ. 118 รูปคดีเป็นการขายฝากไถ่คืนไม่ได้ตามประกาศข้อ 6 พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยครอบครอง เพิกถอนชื่อนายหอมนายปั่นและห้ามจำเลย

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่งดสืบพยานโจทก์นั้นชอบแล้ว แต่ที่วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องขายฝากนั้น นอกข้อหาผิดกับคำฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยคดีนอกข้อหาผิดคำฟ้องจริงแต่เรื่องนี้โจทก์ยังจะขอสืบข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง แม้คำแถลงจะรับว่าได้ทำกินต่างดอกเบี้ยมา ก็อาจมีโอนสิทธิให้แก่กันตามที่โจทก์ประสงค์จะสืบก็ได้ที่งดสืบพยานซึ่งศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะเป็นการขัดกับคำแถลงนั้น ไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่

Share