คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4698/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบน่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทราบว่าผู้เสียหายอายุไม่เกิน 15 ปี ข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายโดยรู้อยู่แล้วว่าผู้เสียหายมีอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 62 วรรคหนึ่ง จำเลยไม่มีความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง จำคุก 5 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายโดยไม่รู้ว่า ผู้เสียหายอายุ 14 ปีเศษ ข้อนี้ผู้เสียหายเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า เกิดวันที่ 4 พฤษภาคม2523 ตามสำเนาภาพถ่ายทะเบียนบ้านเอกสารหมาย จ.1 ผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำชำเราเพราะจำเลยจะรับผิดชอบ หลังเกิดเหตุได้ผูกข้อมือเป็นสามีภริยากับจำเลยต่อมาทราบว่าจำเลยมีภริยาแล้วจึงไปแจ้งความดำเนินคดี นางอุดม บุตร์แสงจันทร์ มารดาผู้เสียหายเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า คลอดผู้เสียหายที่โรงพยาบาลหล่มสัก หลังจากนั้น 3 ถึง 4 วัน จึงไปแจ้งเกิด และเบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า ได้มาแจ้งเกิดในสำเนาทะเบียนบ้านเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2537 หลังเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ร้อยตำรวจโทบุญเริ่ม ศรีอ่อน พนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานว่า ชั้นสอบสวนจำเลยให้การ ตามเอกสารหมาย จ.2 ผู้เสียหายมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่พยานไม่สามารถกะประมาณอายุของผู้เสียหายได้ จำเลยเบิกความเป็นพยานว่าผู้เสียหายบอกจำเลยว่ามีอายุ18 ปี เห็นว่า ร้อยตำรวจโทบุญเริ่มพนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า ผู้เสียหายมีรูปร่างสูงใหญ่ ทั้งข้อเท็จจริงก็ฟังได้ตามที่ผู้เสียหายเบิกความว่าหลังเกิดเหตุได้มีการผูกข้อมือเป็นสามีภริยากับจำเลยแสดงว่าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าผู้เสียหายมีสภาพร่างกายเจริญเติบโตพร้อมที่จะเป็นภริยาจำเลยได้แล้ว ชั้นสอบสวนจำเลยก็ให้การว่า ไม่ทราบว่าผู้เสียหายอายุเท่าใด ตามเอกสารหมาย จ.2 จึงน่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทราบว่าผู้เสียหายอายุไม่เกิน 15 ปี ข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่า จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายโดยรู้อยู่แล้วว่าผู้เสียหายมีอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 62 วรรคหนึ่ง จำเลยจึงไม่มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ฎีกาจำเลยฟังขึ้น เมื่อวินิจฉัยดังกล่าวแล้วไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลย เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share