คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4697/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับมีความหมายว่าในการเลือกตั้งต้องใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนที่ไม่มีผู้ใดทราบว่าสมาชิกสหภาพแรงงานผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงาน เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ใช้สิทธิอย่างอิสรเสรี ไม่ต้องตกอยู่ในความเกรงกลัว ความเกรงใจหรืออิทธิพลของใคร ด้วยเหตุนี้หากมีการกระทำใดที่เป็นช่องทางให้ทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานผู้มาใช้สิทธิเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานถือได้ว่าไม่ใช่เป็นการลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ
การที่คู่มือเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยประจำปี 2547 กำหนดให้ทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยมีเลขประจำตัวพนักงานและเลขสมาชิกสหภาพแรงงานของพนักงานผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นปรากฏอยู่ กับทำบัตรเลือกตั้งซึ่งมีเลขที่บัตรปรากฏอยู่ ในวันเลือกตั้งเมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานไปแสดงตัวที่หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งระบุเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในช่องว่างตรงกับชื่อสมาชิกสหภาพแรงงานผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้วให้สหภาพแรงงานนั้นลงลายมือชื่อ จากนั้นจึงมอบบัตรเลือกตั้งให้ไปลงคะแนนต่อไป การปฏิบัติดังกล่าวเป็นช่องทางให้ตรวจสอบทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงคะแนนเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงาน จึงไม่ใช่การลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ไม่ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ข้อ 26 ที่กำหนดให้การเลือกตั้งกรรมการต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ที่จำเลยที่ 1 ไม่รับจดทะเบียนกรรมการสหภาพแรงงานที่ได้มาจากการเลือกตั้งดังกล่าว และจำเลยที่ 2 มีคำวินิจฉัยเห็นด้วยกับจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ รง 0509/002390 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2549 ของจำเลยที่ 1 และคำสั่งที่ 007/2549 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2549 ของจำเลยที่ 2 ให้ จำเลยที่ 1 รับจดทะเบียนกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยตามคำขอจดทะเบียน ลงวันที่ 1 กันยายน 2547
ระหว่างพิจารณานายชัชพงษ์ กับพวกรวม 19 คน ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลแรงงานกลางอนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าว่า การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ข้อ 26 ที่กำหนดให้ลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับหรือไม่ โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอุทธรณ์ว่า ข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าการลงคะแนนลับจะต้องปฏิบัติอย่างไร ลับขนาดไหน จึงต้องถือเอาจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมาว่าการลงคะแนนโดยวิธีลับถือหลักอย่างไร ตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยประจำปี 2547 กล่าวคือเมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อนุกรรมการควบคุมการเลือกตั้งจะบันทึกหมายเลขบัตรเลือกตั้งของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งต่อท้ายจากหมายเลขประจำตัวในบัญชีรายชื่อของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิซ้ำซ้อน ซึ่งตรงตามแนวปฏิบัติอันเป็นจารีตประเพณีที่ต้องการให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้ใช้สิทธิอย่างทั่วถึง และถือว่าคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยดังกล่าวชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยชอบแล้ว จำเลยที่ 1 ในฐานะนายทะเบียนต้องรับจดทะเบียน เห็นว่า การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 อยู่ภายใต้บังคับของข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ซึ่งกำหนดไว้ในข้อ 23 (6) และข้อ 27 (2) ว่าการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ประจำปี ข้อ 26 กำหนดวิธีการออกเสียงลงคะแนนไม่ว่าในเรื่องใดของที่ประชุมใหญ่ว่าอาจใช้วิธีการ (1) ลงคะแนนเสียงโดยวิธีเปิดเผย (2) ลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ทั้งนี้ตามแต่มติที่ประชุมจะเห็นสมควร ยกเว้นเรื่องการเลือกตั้งกรรมการต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับเท่านั้น ดังนั้นการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยข้างต้นจึงต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ และต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ซึ่งมีความหมายว่าในการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ จะต้องใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนที่ไม่มีผู้ใดทราบว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ เพื่อเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ใช้สิทธิอย่างอิสรเสรี ไม่ต้องตกอยู่ในความเกรงกลัว ความเกรงใจ หรืออิทธิพลของใคร ด้วยเหตุนี้หากมีการกระทำใดที่เป็นช่องทางให้ทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มาใช้สิทธิเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ย่อมถือได้ว่าไม่ใช่เป็นการลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ตามข้อบังคับดังกล่าว ข้อเท็จจริงได้ความว่า ในการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ ครั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยจัดทำคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ขึ้นเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยให้คณะอนุกรรมการการเลือกตั้งจัดหน่วยเลือกตั้งออกเป็นหลายหน่วยกระจายไปตามหน่วยงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วราชอาณาจักร ทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งมีเลขประจำตัวพนักงานและเลขสมาชิกสหภาพแรงงานฯของพนักงานผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นปรากฏอยู่ กับทำบัตรเลือกตั้งซึ่งมีเลขที่บัตรปรากฏอยู่ แล้วส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย ในวันเลือกตั้งวันที่ 27 สิงหาคม 2547 เมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแสดงตัวใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งใด เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งจะระบุเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในช่องว่างตรงกับชื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แล้วให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งลงลายมือชื่อในช่องตรงกับชื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังจากนั้นจึงมอบบัตรเลือกตั้งให้แก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อไปลงคะแนนต่อไป เมื่อลงคะแนนเสร็จหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยจะส่งหีบบัตรเลือกตั้งไปรวมนับคะแนนที่ส่วนกลาง พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายใดใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเกินกว่าหนึ่งหน่วยหรือไม่ ถ้ามีก็จะตรวจและดึงเอาบัตรเลือกตั้งของผู้นั้นออกจากบัตรที่ยังไม่ได้นับคะแนนโดยอาศัยเลขที่บัตรเลือกตั้งที่ปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและปรับให้เป็นบัตรเสียเพราะลงคะแนนซ้ำซ้อน จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติตามแนวทางในคู่มือการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นช่องทางให้ตรวจสอบทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งย่อมเกิดความหวาดระแวงว่าจะมีผู้อื่นทราบความลับของตนว่าได้ใช้สิทธิเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่มีโอกาสใช้ดุลพินิจอย่างอิสรเสรีในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งอีกต่อไป จึงไม่ใช่การลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ย่อมไม่ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ที่โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอ้างว่าการปฏิบัติตามคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ข้างต้นเป็นการปฏิบัติตามจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติมาเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการที่สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ใช้สิทธิเลือกตั้งซ้ำซ้อนมากกว่าหนึ่งหน่วยเลือกตั้งนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การป้องกันไม่ให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ใช้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงซ้ำซ้อนมากกว่าหนึ่งหน่วยเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สหภาพแรงงานฯ มีสิทธิกระทำได้ แต่จะต้องเลือกใช้วิธีป้องกันที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือไม่ขัดต่อข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 เมื่อแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้งตามคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ขัดต่อข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ.2545 ดังวินิจฉัยมาแล้ว โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าจะอ้างว่าเคยปฏิบัติกันมาจนเป็นจารีตประเพณีหาได้ไม่ อุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share