คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่2รับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาทจำเลยที่2ให้การว่ามิได้ค้ำประกันเป็นอาวัลเช็คพิพาทโดยไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่2เพราะเหตุใดจำเลยที่2จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่2หรือไม่ แม้ผู้ที่โอนเช็คพิพาทให้โจทก์จะได้รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยที่1ตามมูลหนี้กู้ยืมเงินโจทก์ก็ไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้มานำสืบเพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่2ร่วมรับผิดกับจำเลยที่1ตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่2ฎีกาว่า ต. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลและจำเลยที่1ออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงชื่อร่วมกับ ป.เป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับธนาคารโดยที่ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยที่2ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจึงต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา921ประกอบมาตรา989

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น ผู้ทรงเช็ค ผู้ถือ ซึ่ง มี จำเลย ที่ 1เป็น ผู้สั่งจ่าย และ จำเลย ที่ 2 เป็น ผู้สลักหลัง ค้ำประกัน เป็น อาวัลจำเลย ที่ 1 ส่งมอบ เช็ค ดังกล่าว ให้ ผู้มีชื่อ เพื่อ ชำระหนี้ และผู้มีชื่อ ได้ โอน เช็ค นั้น ให้ โจทก์ เป็น การ ชำระหนี้ เมื่อ เช็ค ถึง กำหนดธนาคาร ปฏิเสธ การ จ่ายเงิน ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ชำระ เงินแก่ โจทก์ จำนวน 350,000 บาท พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ที่ 1 ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 2 มิได้ ค้ำประกัน เป็น อาวัล เช็คพิพาท ต่อ โจทก์ จึง ไม่ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ เงิน แก่ โจทก์จำนวน 348,750 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ เจ็ด ครึ่ง ต่อ ปีของ ต้นเงิน 350,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกา จำเลย ที่ 2 มี ว่าจำเลย ที่ 2 ต้อง รับผิด ตามเช็ค พิพาท ต่อ โจทก์ หรือไม่ เห็นว่าโจทก์ กล่าว ใน คำฟ้อง ถึง ความรับผิด ของ จำเลย ที่ 2 ใน ฐานะ ผู้สลักหลังอาวัล เช็คพิพาท จำเลย ที่ 2 ให้การ ปฏิเสธ แต่เพียง ว่า จำเลย ที่ 2มิได้ ค้ำประกัน เป็น อาวัล เช็คพิพาท โดย มิได้ อ้าง เหตุ แห่ง การ ปฏิเสธโดยชัดแจ้ง ว่า ลายมือชื่อ ด้านหลัง เช็คพิพาท มิใช่ ลายมือชื่อ ของจำเลย ที่ 2 เพราะ เหตุใด จำเลย ที่ 2 จึง ไม่ ประเด็น นำสืบ ว่าลายมือชื่อ ด้านหลัง เช็คพิพาท เป็น ของ จำเลย ที่ 2 หรือไม่ ใน ข้อ นี้โจทก์ มี นาย ต่องอุ่ย แซ่เตียว เป็น พยาน เบิกความ ว่า จำเลย ที่ 1ออก เช็คพิพาท สั่งจ่าย เงิน ชำระหนี้ ให้ แก่ พยาน โดย จำเลย ที่ 2 ลงลายมือชื่อ สลักหลัง แม้ พยาน ตอบ คำถามค้าน ของ ทนายจำเลย ที่ 2 ว่าพยาน รับ เช็คพิพาท มาจาก มูลหนี้ กู้ยืม เงิน โจทก์ ก็ ไม่จำต้อง มีหลักฐาน แห่ง การ กู้ยืม มา นำสืบ เพราะ โจทก์ มิได้ ฟ้องบังคับ ให้จำเลย ที่ 2 ร่วมรับผิด ตาม หนังสือ สัญญากู้ยืม เงิน ข้อเท็จจริง จึง ฟังได้ว่า จำเลย ที่ 1 สั่งจ่าย เช็คพิพาท เพื่อ ชำระหนี้ ให้ นาย ต่องอุ่ย โดย มี จำเลย ที่ 2 ลงชื่อ สลักหลัง ที่ จำเลย ที่ 2 ฎีกา ว่า ระหว่างโจทก์ กับ นาย ต่องอุ่ย ไม่มี หนี้ ต่อ กัน นาย ต่องอุ่ย โอน เช็คพิพาท ให้ โจทก์ เป็น การ คบคิด กัน ฉ้อฉล ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 916 ซึ่ง เป็น ผล ให้ จำเลย ที่ 2 ไม่ต้อง รับผิด ตามเช็ค พิพาท ก็ ดีจำเลย ที่ 1 ออก เช็คพิพาท โดย มิได้ ลงชื่อ ร่วม กับ นาย ประสิทธิ์ ธนากรเมธา เป็น การ ผิด เงื่อนไข ใน การ ออก เช็ค ตาม ที่ ได้ มี ข้อตกลง ไว้ กับ ธนาคาร เช็คพิพาท จึง ไม่มี มูลหนี้ ก็ ดี ล้วน เป็น ข้อ ที่ จำเลย ที่ 2มิได้ ยกขึ้น ต่อสู้ ไว้ ใน คำให้การ จึง เป็น ข้อ ที่ มิได้ ยกขึ้น ว่า กันมา แล้ว โดยชอบ ใน ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ และ มิใช่ ปัญหา อัน เกี่ยว ด้วยความสงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน ต้องห้าม ฎีกา ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความ แพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกา ไม่รับ วินิจฉัย การ ที่ จำเลย ที่ 1ออก เช็คพิพาท ซึ่ง เป็น เช็ค ผู้ถือ สั่งจ่าย เงิน ชำระหนี้ เงินกู้ ยืมให้ แก่ นาย ต่องอุ่ย โดย จำเลย ที่ 2 ลงลายมือชื่อ สลักหลัง ต่อมา นาย ต่องอุ่ย ได้ โอน เช็คพิพาท ให้ โจทก์ แลก กับ เงินสด โจทก์ จึง เป็น ผู้ทรงเช็ค พิพาท โดยชอบ ด้วย กฎหมาย จำเลย ที่ 2 ซึ่ง ลงลายมือชื่อสลักหลัง เช็ค ที่ สั่ง ให้ ใช้ เงิน แก่ ผู้ถือ จึง ต้อง ผูกพัน ใน ฐานะผู้รับ อาวัล สำหรับ ผู้สั่งจ่าย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 921 ประกอบ ด้วย มาตรา 989 ฎีกา ของ จำเลย ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share