คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายไม้ซุงกันโดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์เมื่อจำเลยส่งไม้ซุงให้โจทก์ก็คิดหักราคากัน และต่อมาเมื่อคิดบัญชีกันแล้วยังมีเงินค่าไม้ซุงที่จำเลยรับไปล่วงหน้าเหลืออยู่ การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือดังกล่าวคืนมิใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี หากแต่มีอายุความ 10ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์ โดยมีข้อตกลงจะชำระหนี้ให้โจทก์ด้วยการส่งไม้ซุงชนิดต่าง ๆ ให้โจทก์ตามราคาท้องตลาด แต่จำเลยไม่สามารถส่งให้ครบเต็มตามจำนวนเงินที่จำเลยรับไป คิดบัญชีแล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์ 63,920 บาท ขอให้จำเลยใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมทั้งดอกเบี้ยคืนแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยส่งไม้ซุงให้โจทก์ครบถ้วนแล้วและไม่มีการติดต่อซื้อขายกันมาเป็นเวลา 3 ปีเศษแล้ว สิทธิฟ้องร้องของโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงิน 63,920 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ 2 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) หรือไม่นั้นข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายไม้ซุงกันโดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์ เมื่อจำเลยส่งไม้ซุงให้โจทก์ก็คิดหักราคากัน และต่อมาเมื่อคิดบัญชีกันแล้วปรากฏว่ายังมีเงินค่าไม้ซุงที่จำเลยรับล่วงหน้าเหลืออยู่ 2 จำนวน คือ 50,000 บาท และ 22,000 บาท ดังนี้ เห็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือดังกล่าวคืน มิใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)ซึ่งมีอายุความ 2 ปี จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

พิพากษายืน

Share