คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การยอมรับว่า ได้ซื้อสินค้าไปจากโจทก์และไม่ได้ชำระเงินค่าสินค้าให้โจทก์จริงตามฟ้อง แต่อ้างว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยเสียหายหลายรายการ ไม่ตรงตามที่ตกลงและไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการนั้นไว้ในคำให้การว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยนั้นเสียหายอย่างไร มีข้อตกลงกันอย่างไร ส่งไม่ตรงตามที่ตกลงกันอย่างไร และตกลงกันให้ส่งสินค้าเมื่อไร แล้วโจทก์ส่งสินค้าให้ก่อนหรือหลังเวลาที่ตกลงกันไว้ จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งเหตุแห่งการอ้างว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้เสียหายหลายรายการ และไม่ตรงตามที่ตกลงกัน กับไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 บัญญัติไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่จำเลยให้การดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ ๒ ครั้ง จากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย รวมเป็นเงิน ๖,๘๒๒.๘๓ เหรียญ (สิงคโปร์) จำเลยได้รับสินค้าแล้ว แต่ยังไม่ชำระเงินให้โจทก์ โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย จึงขอให้บังคับ
จำเลยให้การว่า เคยซื้อสินค้าจากโจทก์ไปจริง แต่ปรากฏว่าเสียหายหลายรายการ ทำให้จำเลยไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งสินค้าที่โจทก์ส่งมอบให้แก่จำเลย ก็ไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้และไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายเกินกว่าที่โจทก์เรียกร้องจากจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๕๖,๖๒๙ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ขอให้กลับคำสั่งศาลชั้นต้น โดยให้จำเลยทำการสืบพยานตามคำให้การของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรค ๒ บัญญัติว่า “ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น” จำเลยให้การยอมรับว่าจำเลยซื้อสินค้าไปจากโจทก์และไม่ชำระเงินค่าสินค้าให้โจทก์จริงตามฟ้อง ส่วนที่จำเลยให้การว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยเสียหายหลายรายการและไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ กับไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้นั้น จำเลยมิได้อ้างเหตุแห่งการนั้นไว้ในคำให้การว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยนั้นเสียหายอย่างไร มีข้อตกลงกันอย่างไรแล้ว โจทก์ส่งให้ไม่ตรงตามที่ตกลงกันอย่างไร และตกลงกันให้ส่งสินค้าเมื่อไร แล้วโจทก์ส่งสินค้าให้ก่อนหรือหลังเวลาที่ตกลงกันไว้ จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งเหตุแห่งการอ้างว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้เสียหายหลายรายการและไม่ตรงตามที่ตกลงกัน กับไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรค ๒ จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่จำเลยให้การต่อสู้ดังกล่าว
พิพากษายืน

Share