คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4744/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ยกที่ดินให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์รวมตามบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมในระหว่างสมรส มีผลทำให้ที่ดินตกเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ซึ่งบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาระหว่างสมรสที่สมบูรณ์ใช้บังคับกันได้ กรณีมิใช่การยกให้ซึ่งจะถอนคืนการให้ได้ต่อเมื่อมีเหตุเนรคุณตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 โจทก์จึงมีสิทธิที่จะบอกล้างได้ตามมาตรา 1469

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อประมาณต้นปี 2531 จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์ของจำเลยซึ่งไม่เป็นความจริงและขับไล่โจทก์ออกจากบ้าน เมื่อโจทก์กลับเข้ามาอยู่ในบ้าน จำเลยด่าว่าโจทก์อย่างเสียหายและไม่ยอมให้โจทก์ร่วมประเวณีด้วย โจทก์กับจำเลยจึงแยกกันอยู่ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลย โจทก์ให้จำเลยจดทะเบียนหย่าและคืนทรัพย์สินส่วนตัวของโจทก์ซึ่งได้แก่ที่ดินโฉนดที่ 5841โต๊ะหมู่บูชาใหญ่ 1 ชุด พระพุทธรูปบูชาขนาดต่าง ๆ รวม 5 องค์เตียงนอนไม้สักขนาดใหญ่ 1 เตียง ครกและสากหิน 1 ชุดเงินสด 50,000 บาท แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยหย่าขาดจากโจทก์และคืนทรัพย์สินส่วนตัวให้โจทก์ ให้เพิกถอนบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมของสำนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรีฉบับลงวันที่ 12 มิถุนายน 2527 ในที่ดินโฉนดเลขที่ 5841ตำบลไทรใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ให้จำเลยจดทะเบียนคืนที่ดินและส่งมอบโฉนดที่ดินคืนโจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมฉบับลงวันที่ 12 มิถุนายน 2527 ในที่ดินโฉนดเลขที่ 5841ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย (บางบัวทอง) จังหวัดนนทบุรีให้จำเลยจดทะเบียนคืนที่ดินและส่งมอบโฉนดที่ดินคืนโจทก์ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะบอกล้างการยกที่ดินพิพาทแก่จำเลยได้นั้น เห็นว่า การที่โจทก์ยกที่ดินให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทตามบันทึกข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์รวมเอกสารหมาย จ.6 ในระหว่างสมรสมีผลทำให้ที่ดินพิพาทตกเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ซึ่งบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาระหว่างสมรสที่สมบูรณ์ใช้บังคับกันได้กรณีมิใช่การยกให้ซึ่งจะถอนคืนการให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531 ดังที่จำเลยอ้าง โจทก์จึงมีสิทธิที่จะบอกล้างได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1469 ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้รับหนังสือบอกล้างโดยชอบนั้น เห็นว่า โจทก์ได้มีหนังสือบอกล้างไปยังภูมิลำเนาของจำเลยที่บ้านเลขที่ 31หมู่ 5 แขวงคลองกุ่ม เขตบางกะปิ (บึงกุ่ม) กรุงเทพมหานครตามสำเนาทะเบียนบ้านเอกสารหมาย จ.2 ที่มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าบ้านซึ่งจำเลยเบิกความยอมรับว่ามีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านดังกล่าวจริงยังไม่ได้แจ้งย้ายชื่อออกไป ดังนี้ถือว่าจำเลยทราบคำบอกล้างของโจทก์โดยชอบแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share