คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การถูกกระทำร้ายถึงเสียอวัยวะที่จะถือว่าเป็นอันตรายสาหัสตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 คำว่า อวัยวะอื่นใดในอนุมาตรา 3 นั้น ย่อมหมายถึงอวัยวะอื่นนอกจากที่ระบุไว้ ซึ่งต้องเป็นอวัยวะที่สำคัญเช่นกันและเมื่อสูญเสียอวัยวะนั้นไปแล้ว ย่อมเป็นเหตุให้ผู้ได้รับอันตรายกลายเป็นคนพิการไปด้วย
การที่จำเลยขับรถโดยประมาทชนรถผู้อื่นทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บฟันหัก 1 ซี่นั้น ยังถือไม่ได้ว่าได้รับอันตรายสาหัสตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพฟังได้ว่า จำเลยขับรถยนต์ส่วนบุคคลด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ โดยจำเลยขับรถฝ่าฝืนกฎหมายขับผ่านทางแยกไปโดยไม่หยุดรถที่ป้ายหยุดและขับรถไปด้วยอัตราความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ชนรถซึ่งนายมีฮก แซ่เบ๊ ขับขี่มาเสียหายคิดเป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท นายมีฮกได้รับบาดเจ็บ ๗ วัน ฟันหน้าล่างซ้ายหัก ๑ ซี่ และเด็กชายฮวงเจ็ง แซ่เบ๊ ซึ่งนั่งมาด้วยบาดเจ็บ ๑๔ วัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา ๒๙, ๓๑, ๖๖ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๘๑ มาตรา ๔ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ โดยวินิจฉัยว่าการที่นายมีฮก แซ่เบ๊ ได้รับอันตรายฟันหักยังไม่ถือว่าเป็นการเสียอวัยวะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗(๓) ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลย ๒๐ วัน และปรับ ๕๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑๐ วัน และปรับ ๒๕๐ บาท โทษจำคุกให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีา
ศาลฎีกาเห็นว่า การถูกระทำร้ายถึงเสียอวัยวะที่จะถือว่าเป็นอันตรายสาหัสนั้นได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ (๑) (๒) (๓) คือ ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด เสียอวัยวะสืบพันธุ์ เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด จะเห็นได้ว่าอวัยวะต่าง ๆ ที่ระบุชื่อไว้นั้นล้วนแต่เป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเสียไปแล้วไม่อาจเยียวยารักษา ผู้ได้รับอันตรายนั้นกลายเป็นคนพิการไป ฉะนั้น คำว่า อวัยวะอื่นใด ใน(๓) ของมาตรา ๒๙๗ จึงย่อมหมายความถึงอวัยวะอื่นนอกจากที่ระบุชื่อไว้ และต้องเป็นอวัยวะที่สำคัญเช่นกันซึ่งเมื่อสูญเสียอวัยวะนั้น ๆ ไปแล้ว เป็นเหตุให้ผู้ได้รับอันตรายตกเป็นคนพิการไปด้วย เห็นว่าแม้ฟันจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่อวัยวะส่วนสำคัญ และการสูญเสียฟันไปเพียง ๑ ซี่นั้นมิได้ทำให้ผู้ได้รับอันตรายกลายเป็นคนพิการ อันจะเทียบได้กับการเสียอวัยวะอื่นดังที่ได้ระบุชื่อไว้ในมาตรา ๒๙๗(๑) (๒) และ (๓)
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share