แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยปลอมเอกสารมอบให้ ส.ส. นำเอกสารปลอมที่ได้รับจากจำเลยไปแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจโดยลำพังตนเอง จำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่จำเลยมอบเอกสารปลอมให้ ส. เท่านั้นยังถือไม่ได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อให้ส. กระทำผิดฐานใช้เอกสารปลอม อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 84
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือ
ก. เมื่อระหว่างวันที่ 11 – 27 เมษายน 2517 เวลากลางวัน จำเลยได้ปลอมแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมืออันเป็นเอกสารราชการของกรมตำรวจโดยเอาแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของนายอำนาจมาลบชื่อนายอำนาจในช่องลายมือชื่อผู้พิมพ์ลายนิ้วมือออก แล้วใส่ชื่อนายสำรวงลงไปแทนแล้วจำเลยใช้ดวงตราของทางราชการกรมตำรวจ ประจำแผนกตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งมีข้อความว่าไม่มีประวัติประทับลงบนแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือตรงช่องปิดรูปถ่ายและปลอมลายเซ็นชื่อของจ่าสิบตำรวจเวกย์เจ้าหน้าที่ที่เซ็นชื่อรับรองแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือที่ตรวจสอบแล้วไม่พบประวัติคดีอาญาและปลอมลายเซ็นชื่อของร้อยตำรวจโทประเสริฐในรายการแจ้งประวัติตรงช่องผู้รับรองในรายการประวัติอาชญากรเพื่อช่วยเหลือนายสำรวงซึ่งประวัติอาชญากรฐานพยายามฆ่าคนให้เป็นว่าไม่มีประวัติอาชญากร เพื่อให้การไฟฟ้านครหลวงรับนายสำรวงเข้าทำงานเป็นลูกจ้างของการไฟฟ้านครหลวง อันจะเกิดความเสียหายแก่ทางราชการกรมตำรวจ และประชาชนทั่วไป โดยจำเลยกระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของนายสำรวงไม่มีประวัติอาชญากร
ข. ต่อมาวันที่ 26 เมษายน 2516 เวลากลางวัน จำเลยได้นำแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือที่จำเลยทำปลอมขึ้นดังกล่าวมอบให้นายสำรวง เพื่อให้นายสำรวงไปอ้างและใช้ต่อร้อยตำรวจเอกศรีศักดิ์ผู้รักษาการณ์แทนผู้บังคับกองสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และวันที่ 27 เมษายน 2516 เวลากลางวัน นายสำรวงได้นำแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือที่จำเลยมอบให้ไปอ้างและใช้กับร้อยตำรวจเอกศรีศักดิ์ตามที่จำเลยใช้ ร้อยตำรวจเอกศรีศักดิ์ เข้าใจว่าเป็นแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของนายสำรวงจริง จึงทำหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบความประพฤติของนายสำรวงไปให้แก่นายเชือนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงทราบ การกระทำของจำเลยดังกล่าว น่าจะเกิดความเสียหายแก่ร้อยตำรวจเอกศรีศักดิ์ การไฟฟ้านครหลวง และประชาชนทั่วไป
เหตุเกิดที่ตำบลคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และแขวงบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพมหานครเกี่ยวพันกัน
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 84
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 จำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 84อีกฐานหนึ่งด้วย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อเท็จจริงที่เป็นอันยุติว่าจำเลยปลอมเอกสารราชการมอบให้นายสำรวงและนายสำรวงนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจนั้น จำเลยจะมีความผิดตามที่โจทก์ฎีกาอีกฐานหนึ่งหรือไม่ เห็นว่า การที่นายสำรวงนำเอกสารราชการปลอมที่ได้รับจากจำเลยไปแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจนั้นเป็นเรื่องที่นายสำรวงกระทำไปโดยลำพังตนเอง จำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่จำเลยมอบเอกสารราชการปลอมให้นายสำรวงเท่านั้นถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อให้นายสำรวงกระทำผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมการกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 84 ดังที่โจทก์ฎีกา
พิพากษายืน