คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องชั้นบังคับคดีของโจทก์ให้โดยอนุโลมว่าเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเป็นจำนวนเท่าใดแล้วยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้องอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอ ดังนี้ คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้องครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งตามมาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) แม้เดิมศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้วก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้เมื่อผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่โจทก์เรียกร้องศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนจะมีคำสั่งในเรื่องนี้

ย่อยาว

ศาลจังหวัดตรังพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ คดีถึงที่สุด จำเลยไม่ชำระหนี้โจทก์ขอหมายบังคับคดีและศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว

โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยมีเงินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้อง ขอให้ศาลไต่สวนเพื่อทราบว่ามีจำนวนเงินเพียงใด แล้วมีคำสั่งอายัดเงินของจำเลยนำชำระให้แก่โจทก์ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำร้องโจทก์พออนุโลมได้ว่าเป็นคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 จึงไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องโจทก์ โดยฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ซึ่งมีต่อกันเสร็จสิ้นไปแล้ว จึงไม่มีเงินของผู้ร้องในความครอบครองของจำเลย ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอโดยกำหนดให้ผู้ร้องชำระเงินต่อศาลภายใน 10 วัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่มีหนี้สินจะต้องชำระให้แก่จำเลยอีก ขอให้ถอนหมายอายัด โจทก์คัดค้าน ศาลชั้นต้นสอบผู้ร้องและโจทก์แล้วเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดไต่สวน แล้ววินิจฉัยว่าเงินตามหมายอายัดเป็นจำนวนเดียวกับที่ศาลมีคำสั่งชี้ขาดไปแล้วว่า ผู้ร้องกับจำเลยได้ตกลงหักหนี้กันไปแล้ว ไม่มีเงินของจำเลยอยู่กับผู้ร้องโจทก์จึงไม่มีสิทธิขออายัด มีคำสั่งให้เพิกถอนหมายอายัดเงินจากผู้ร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้อง เป็นคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) ผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องเอาจากตน และโจทก์มิได้ยอมรับข้อกล่าวอ้างของผู้ร้อง ศาลชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายให้เสร็จสิ้นกระแสความ คำสั่งของศาลเดิมที่ยกคำร้องโจทก์ เป็นเรื่องไต่สวนเพื่อจะทราบว่า นอกจากทรัพย์สินซึ่งโจทก์ทราบอยู่แล้วลูกหนี้มีทรัพย์สินอื่นใดอีกหรือไม่เป็นการไต่สวนตามมาตรา 277 คนละกรณีกับคดีนี้ พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องโจทก์ฉบับแรกโดยอนุโลมเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องที่แท้จริงเป็นเงินจำนวนเท่าใด ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของโจทก์ที่จะบังคับคดีแก่จำเลยต่อไปเท่านั้น ส่วนที่ผู้ร้องไปให้ถ้อยคำต่อศาลชั้นต้นก็หาได้เข้ามาในคดีเพราะได้รับหมายอายัดและคัดค้านคำสั่งอายัดตามมาตรา 311และมาตรา 312 ไม่ ฉะนั้น กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเดิมแม้ในคำสั่งจะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้ว ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้ รูปคดีมีข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นชอบจะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนมีคำสั่ง

พิพากษายืน

Share