คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4655/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ฟ้องโจทก์อ้างว่า คำสั่งของจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินที่ให้ออกโฉนดที่ดินพิพาท เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายและความเป็นจริง เพราะที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์เหตุผลเพียงเท่าที่อ้างจะถือว่าจำเลยกระทำการไปโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลและไม่สุจริตหาได้ไม่ ทั้งมิได้บรรยายว่าจำเลยรับฟังข้อเท็จจริงหรือใช้ดุลพินิจโดยไม่มีพยานหลักฐานหรือเหตุผลสนับสนุนเพียงพอหรือโดยไม่สุจริต โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนคำสั่งของจำเลย ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60 ที่ระบุให้ฝ่ายที่ไม่พอใจคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดินไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง หมายถึงให้คู่กรณีฟ้องเพื่อขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาเกี่ยวด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ว่าผู้ใดมีสิทธิดีกว่ากัน โดยเจ้าพนักงานที่ดินจะรอเรื่องการออกโฉนดไว้ก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินได้สอบสวนเปรียบเทียบตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60 และมีคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินให้นางทองมาก ฉ่ำธีระธรรม อันเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายและความเป็นจริง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะที่ดินเป็นของโจทก์ ขอให้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งของจำเลยห้ามจำเลยมิให้ออกโฉนดที่ดินพิพาทให้แก่นางทองมาก
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า คำสั่งที่ให้ออกโฉนดที่ดินพิพาทให้แก่นางทองมากเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า คำสั่งของจำเลยเป็นคำสั่งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60 หากคู่กรณีฝ่ายใดไม่พอใจก็มีสิทธินำคดีไปฟ้องร้องกันเอง มิใช่ฟ้องจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดิน การที่จำเลยมีคำสั่งเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายถือไม่ได้ว่าโจทก์มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินมีคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินพิพาทนั้น ได้ดำเนินการปฏิบัติไปตามขั้นตอนที่ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60 บัญญัติไว้ โดยทำการสอบสวนเปรียบเทียบจากพยานหลักฐานของคู่กรณีทุกฝ่าย แล้วใช้ดุลพินิจไปตามที่เห็นสมควรเมื่อสั่งประการใดแล้วให้ฝ่ายที่ไม่พอใจไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายใน60 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง ซึ่งหมายถึงให้คู่กรณีฟ้องเพื่อขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาเกี่ยวด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินที่พิพาทว่าผู้ใดมีสิทธิดีกว่ากัน โดยเจ้าพนักงานที่ดินจะรอเรื่องการออกโฉนดไว้ในระหว่างนั้น ทั้งแม้ฟ้องโจทก์จะกล่าวอ้างว่าคำสั่งของจำเลยเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายและความเป็นจริงเพราะที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ เห็นว่า เหตุผลเพียงเท่าที่อ้างจะถือว่าจำเลยกระทำไปโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลและไม่สุจริตหาได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยรับฟังข้อเท็จจริงหรือใช้ดุลพินิจโดยไม่มีพยานหลักฐานหรือเหตุผลสนับสนุนเพียงพอหรือโดยไม่สุจริตโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน.

Share