คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถึงแก่กรรมขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการเข้าเป็นคู่ความแทนที่ เมื่อ บ. ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลย ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยจริงหรือไม่ แล้วส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 6 เพื่อพิจารณาสั่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จึงไม่ชอบ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น แต่เนื่องจากคดีนี้ได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว จึงเห็นสมควรสั่งคำร้องของผู้ร้องดังกล่าวไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 สั่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้ว บ้าน สิ่งปลูกสร้างตลอดจนขนย้ายวัสดุสิ่งของต่าง ๆ ของจำเลยออกไปจากที่ดินพิพาทและห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินอีกต่อไปให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงินเดือนละ 5,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตั้งอยู่หมู่ที่ 11 ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ 142 ไร่ 96 ตารางวา ตามแผนที่พิพาทให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกไปจากที่ดินพิพาทห้ามเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท ให้ชำระค่าเสียหายเดือนละ 500 บาท แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 21 เมษายน 2541) เป็นต้นไปจนกว่าจะออกจากที่ดินพิพาท ให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยถึงแก่กรรมขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการเข้าเป็นคู่ความแทนที่ เมื่อนางบุญมียื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลย ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนให้ได้ความว่าผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยจริงหรือไม่แล้วส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 6 เพื่อพิจารณาสั่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จึงไม่ชอบ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น แต่เนื่องจากคดีนี้ได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว จึงเห็นสมควรสั่งคำร้องของผู้ร้องดังกล่าวไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 สั่ง ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยจึงเป็นทายาทจำเลยและผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยย่อมเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะได้ จึงมีคำสั่งอนุญาตให้นางบุญมีเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะ…
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 2,000 บาทแทนโจทก์

Share