แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ยินยอมไปกับจำเลยกับพวกก็เพราะถูกจำเลยกับพวกหลอกลวงว่าจะไปส่ง แต่จำเลยกับพวกกลับพาไปในที่เกิดเหตุแล้วร่วมกันขู่เข็ญฉุดคร่าผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเรา จึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเต็มใจไปกับจำเลย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318วรรคท้าย
แม้ว่าหลังจากจำเลยกับพวกร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว จำเลยกับพวกจะพาผู้เสียหายไปส่งก็ตาม แต่ก่อนจะไปส่ง จำเลยกับพวกพาผู้เสียหายไปในที่เกิดเหตุและควบคุมผู้เสียหายไว้เพื่อให้จำเลยกับพวกมีโอกาสผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายไม่อยู่ในภาวะที่จะขัดขืนหรือหลบหนีไปได้ ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 วรรคแรกแต่ความผิดตามมาตรา310 วรรคแรก กับความผิดตามมาตรา 284 วรรคแรก เป็นการกระทำขณะเดียวกันต่อเนื่องกันไป เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามมาตรา284 วรรคแรก ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุดเพียงบทเดียว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 5 เมษายน 2527 เวลากลางคืนหลังเที่ยงถึงวันที่ 6 เมษายน 2527 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกันจำเลยทั้งสองกับพวกอีก 3 คนร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันคือพรากนางสาวอำนวยพร คงแก้วอายุ 16 ปีและนางสาวนิษรา สุริโยอายุ 16 ปีผู้เยาว์ทั้งสองไปเสียจากความปกครองดูแลของบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ทั้งสองไม่เต็มใจไปด้วย และพาผู้เยาว์ทั้งสองไปเพื่อการอนาจารโดยตบหน้านางสาวนิษราแล้วฉุดลากผู้เยาว์ทั้งสองไปและโดยใช้อุบายหลอกลวงว่าจะพาไปเที่ยวงานรื่นเริงแห่งหนึ่งทั้งได้หน่วงเหนี่ยวกักขังและคุมตัวผู้เสียหายทั้งสองเป็นเหตุให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา83, 91, 276, 284, 310, 318
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง 284, 310, 318 วรรคสามเรียงกระทงลงโทษความผิดตามมาตรา 276 วรรคสองทั้งสองกรรมจำคุกจำเลยทั้งสองกรรมละ 17 ปีผิดตามมาตรา 284 จำคุกคนละ 3 ปีผิดตามมาตรา 310จำคุกคนละ 1 ปีผิดตามมาตรา 318 วรรคสามจำคุกคนละ 4 ปีรวมจำคุกคนละ 42 ปีจำเลยทั้งสองให้การและนำสืบว่าได้พาผู้เสียหายทั้งสองไปยังที่เกิดเหตุและได้ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 31 ปี 6 เดือน
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 และ 318 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง 284เรียงกระทงลงโทษความผิดตามมาตรา 276 วรรคสองเป็นความผิดสองกรรมจำคุกจำเลยทั้งสองกรรมละ 17 ปีรวม 34 ปีความผิดตามมาตรา 284 จำคุกคนละ 3 ปีรวมจำคุกคนละ 37 ปีคำให้การชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 27 ปี 9 เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามมาตรา 310 และมาตรา 318ด้วย
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้เสียหายทั้งสองมีอายุ 16 ปีอยู่ในความปกครองดูแลของบิดามารดาในคืนวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 20 นาฬิกาขณะที่ผู้เสียหายทั้งสองกำลังเดินทางจะไปเที่ยวงานคัดเลือกทหารที่อำเภอฉวางพบจำเลยทั้งสองกับพวกรวม 6 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา 2 คันจำเลยที่ 1 ชวนผู้เสียหายทั้งสองให้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับขี่ไปงานดังกล่าวที่อำเภอฉวางเมื่อจำเลยทั้งสองกับพวกขับขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงทางแยกจำเลยทั้งสองกับพวกไม่ขับขี่รถไปงานที่อำเภอฉวางกลับเลี้ยวขวาขับขี่ไปทางที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเชิงเขาและมีน้ำตกครั้นไปถึงจำเลยทั้งสองกับพวกก็จอดรถแล้วพาผู้เสียหายทั้งสองไปที่ริมคลองจากนั้นจำเลยทั้งสองกับพวกรวม 5 คนก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองโดยใช้กำลังบังคับขู่เข็ญผู้เสียหายทั้งสองจนถึงเวลาประมาณ 24 นาฬิกาจำเลยทั้งสองกับพวกจึงยอมให้ผู้เสียหายกลับโดยให้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลยที่ 1แล้วไปส่งที่โรงเรียนของมารดานางสาวอำนวยพรโดยจำเลยทั้งสองกับพวกมิได้พาไปงานที่อำเภอฉวางเลยปัญหามีว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318 และผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายหรือกระทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายตามโจทก์ฟ้องหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่ผู้เสียหายทั้งสองยินยอมไปกับจำเลยทั้งสองกับพวกด้วยก็เพราะถูกจำเลยทั้งสองกับพวกหลอกลวงว่าจะไปส่งในงานที่อำเภอฉวางแต่จำเลยทั้งสองกับพวกกลับพาไปในที่เกิดเหตุแล้วร่วมกันขู่เข็ญฉุดคร่าผู้เสียหายทั้งสองไปข่มขืนกระทำชำเราจึงถือไม่ได้ว่าผู้เสียหายเต็มใจไปกับจำเลยทั้งสองจำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318 วรรคท้ายส่วนข้อหาความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 310 นั้นแม้ว่าหลังจากจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองแล้วจำเลยทั้งสองกับพวกจะพาผู้เสียหายทั้งสองไปส่งก็ตามแต่ก็ปรากฏว่าก่อนจะไปส่งผู้เสียหายทั้งสองนั้นจำเลยทั้งสองกับพวกได้พาผู้เสียหายไปในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวในยามวิกาลจำเลยทั้งสองกับพวกได้ใช้กำลังทำร้ายและฉุดลากผู้เสียหายไปที่ลำคลองบริเวณน้ำตกและควบคุมผู้เสียหายทั้งสองไว้เพื่อให้จำเลยทั้งสองกับพวกได้มีโอกาสผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้งสองจนถึงเวลาปรมาณ 24 นาฬิกาซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายทั้งสองไม่อยู่ในภาวะที่จะขัดขืนหรือหลบหนีไปได้ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายจำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 วรรคแรกที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้งสองไม่มีความผิดตามมาตรา 310 และ 318 นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นแต่ความผิดตามมาตรา 310วรรคแรกกับความผิดตามมาตรา 284 วรรคแรกเป็นการกระทำขณะเดียวกันต่อเนื่องกันไปเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามมาตรา 284 วรรคแรกซึ่งเป็นบทหนักที่สุดเพียงบทเดียว
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 วรรคแรก, 284 วรรคแรกลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา284 วรรคแรกซึ่งเป็นบทหนักที่สุดจำคุกคนละ 3 ปีและมีความผิดตามมาตรา 276 วรรคสอง 2 กระทงและมาตรา 318 วรรคท้ายอีกกระทงหนึ่งความผิดตามมาตรา 276 วรรคสองจำคุกกระทงละ 17 ปีรวม 34 ปีส่วนความผิดตามมาตรา 318 วรรคท้ายจำคุกคนละ 4 ปีรวมจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 41 ปีคำให้การชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 30 ปี 9 เดือน.