แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงื่อนไขหลังสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ว่าเงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับนั้นเป็นเพียงข้อกำหนดให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัล ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อโจทก์มีหลักฐานเชื่อได้ว่าโจทก์ถูกรางวัลแต่สลากหาย ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินให้
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๒ คงเหลือที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ว่าเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑ โจทก์ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาลหมาย ข.หมายเลขสลาก ๘๒๘๗๒๓ หนึ่งฉบับ กำหนดออกรางวัลในวันที่ ๑๐กุมภาพันธ์ ๒๕๑๑ แล้วโจทก์ฉีกสลากกินแบ่งส่วนล่างให้นางบุญเรืองภรรยาโจทก์เก็บไว้ ส่วนบนโจทก์เก็บไว้เอง วันที่ ๑๓ เดือนเดียวกันโจทก์ตรวจผลของการออกสลาก ปรากฏว่าสลากกินแบ่งดังกล่าวถูกรางวัลที่ ๒ แต่สลากส่วนล่างที่มอบให้นางบุญเรืองไว้หายไปในวันที่๑๔ เดือนเดียวกันโจทก์นำสลากส่วนบนไปรับเงินรางวัลจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและแจ้งให้ทราบถึงสลากส่วนล่างที่หายและแจ้งความไว้แล้ว พันตำรวจตรีพร้อม ห่อทอง ได้มีหนังสือถึงประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ทราบถึงเรื่องที่โจทก์แจ้งความไว้แล้ว
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๑ โจทก์ไปขอรับเงินรางวัลสำหรับสลากส่วนที่หายเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่จ่ายให้จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินรางวัลพร้อมด้วยดอกเบี้ย๒๐,๐๘๓ บาทให้โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี ในต้นเงิน๒๐,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ และเสียค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข ๘๒๘๗๒๓ หมาย ข.ส่วนล่างดังฟ้อง ทั้งไม่มีหลักฐานอื่นใดแสดงว่าเป็นเจ้าของ จำเลยได้กำหนดเงื่อนไขไว้หลังสลากทุกฉบับโดยชัดแจ้งว่า “เงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ” จำเลยที่ ๑ มีหน้าที่ตามข้อผูกพันที่ได้กำหนดเงื่อนไขไว้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินสองหมื่นบาทให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไปทั้งสองฝ่าย
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความทั้งสองศาล ๖๐๐ บาทแทนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าสลากกินแบ่งฉบับดังกล่าวนี้ ส่วนล่างเป็นของโจทก์และได้หายไปจริงดังฟ้องที่จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่าได้กำหนดเงื่อนไขไว้หลังสลากทุกฉบับโดยชัดแจ้งว่า “เงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ” เงื่อนไขดังกล่าวจึงผูกพันโจทก์ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นเพียงเพื่อให้จำเลยที่ ๑ มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัล ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหาย และการที่จำเลยที่ ๑ จัดให้มีการออกสลากกินแบ่งนั้นมีวัตถุประสงค์อยู่อย่างหนึ่งว่า จะแบ่งเงินที่ได้จากการขายสลากให้แก่ผู้ถูกสลากตามจำนวนที่กำหนดไว้จำนวนเงินที่กำหนดนี้ ถือได้ว่าเป็นสัญญาอันมีผลผูกพันระหว่างผู้จัดการออกสลากกินแบ่งกับผู้ถูกรางวัลฉะนั้น เมื่อโจทก์มีหลักฐานเชื่อได้ว่าโจทก์ถูกรางวัลแต่สลากหาย ก็เป็นหลักฐานเพียงพอที่จำเลยที่ ๑ ควรต้องจ่ายเงินรางวัลให้โจทก์
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยที่ ๑ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้หนึ่งพันสองร้อยบาทถ้วน