คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาว่า การยกที่ดินให้แก่กันโดยไม่ปรากฏว่าได้จดทะเบียนยกให้ต่อเจ้าพนักงานจึงเป็นโมฆะนั้น ความข้อนี้จำเลยหาได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่เพิ่งจะยกขึ้นมากล่าวอ้างในชั้นฎีกา ซึ่งปัญหาข้อนี้แม้จะถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่สำหรับคดีนี้ ศาลฎีกายังไม่เห็นสมควรที่จะยกขึ้นวินิจฉัยให้ จึงไม่ยกขึ้นวินิจฉัยตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากัน จำเลยที่ 1 เป็นน้องร่วมบิดามารดากับนายดีสามีโจทก์ที่ 1 เมื่อ 19 ปี มานี้โจทก์ที่ 1 แต่งงานกับนายดีมีบุตร 1 คนคือโจทก์ที่ 2 ในวันแต่งงานบิดามารดานายดีได้ยกนาพิพาทให้แก่โจทก์และนายดี โจทก์ทำนาพิพาทปีเศษ นายดีสามีโจทก์ตาย โจทก์อพยพไปอยู่ที่อื่น ได้มอบนาพิพาทให้บิดาดูแลแทนเวลานี้บิดาตายไปแล้ว โจทก์ไปขอรับนาพิพาทจากจำเลยทั้งสอง แต่จำเลยทั้งสองไม่ยอมให้จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ที่ 1 ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายดีโจทก์ที่ 2 ไม่ใช่บุตรนายดี ไม่มีสิทธิรับมรดก นาพิพาทจำเลยแจ้งการครอบครองเป็นของจำเลย

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าบิดาได้ยกนาพิพาทให้โจทก์ นาจึงเป็นของโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกามาว่า การยกที่ดินให้แก่กันโดยไม่ปรากฏว่าได้จดทะเบียนการยกให้ต่อเจ้าพนักงาน จึงเป็นโมฆะนั้นความข้อนี้จำเลยหาได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ เพิ่งจะยกขึ้นมากล่าวอ้างในชั้นฎีกา ซึ่งปัญหาข้อนี้แม้จะถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่สำหรับคดีนี้ศาลฎีกายังไม่เห็นสมควรจะยกขึ้นวินิจฉัยให้ จึงไม่ยกขึ้นวินิจฉัยตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)

พิพากษายืน

Share