แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
จำเลยกับว.ไปยังที่เกิดเหตุด้วยกันและคุยกันอยู่เป็นเวลาถึง10นาทีจึงแยกกันไปรออยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุพอว.กระชากเอาสร้อยคอของผู้เสียหายวิ่งหนีป.ไปได้เพียง7.8เมตรจำเลยก็เข้าขัดขวางโดยกำหมัดยกแขนจะทำร้ายป.ทันทีการกระทำของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับว.ตกลงกันมาก่อนแล้วว่าเมื่อเกิดเหตุจำเลยมีหน้าที่กระทำอย่างไรเป็นการแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำและเป็นการร่วมกับว.ทำการชิงทรัพย์ผู้เสียหาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับนายวิเชียรระดาบุตรบังอาจร่วมกันชิงทรัพย์ของนางดวงใจชาวโพงพางผู้เสียหายโดยใช้กำลังกายผลักและถีบเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339,83
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339,86ลดโทษหนึ่งในสามตามมาตรา78คงจำคุก2ปี11เดือน17วัน
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339วรรคสองลดโทษหนึ่งในสามตามมาตรา78คงจำคุก6ปี8เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าส่วนปัญหาว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการชิงทรัพย์ร่วมกับนายวิเชียรหรือไม่นั้นเห็นว่าจำเลยกับนายวิเชียรไปยังที่เกิดเหตุด้วยกันและคุยกันอยู่เป็นเวลาถึง10นาทีจึงแยกกันไปรออยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุพอนายวิเชียรกระชากเอาสร้อยคอของผู้เสียหายวิ่งหนีจ่าโทประยูรไปได้เพียง7-8เมตรจำเลยก็เข้าไปขัดขวางโดยกำหมัดยกแขนจะทำร้ายจ่าโทประยูรทันทีการกระทำของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยกับนายวิเชียรตกลงกันมาก่อนแล้วว่าเมื่อเกิดเหตุจำเลยมีหน้าที่กระทำอย่างไรเป็นการแบ่งแยกหน้าที่กันกระทำและเป็นการร่วมกับนายวิเชียรทำการชิงทรัพย์ผู้เสียหาย
พิพากษายืน.