คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานกันซึ่งมีข้อกำหนดตามสัญญาว่าผู้จ้างยอมให้ผู้รับจ้างคิดค่าจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางเป็นจำนวนเงิน 400 บาท นับแต่วันทำสัญญาจนกว่าผู้จ้างจะรับไม้ของกลางคืน หากไม้ของกลางขาดหายหรือเป็นอันตรายไปผู้รับจ้างยอมให้ผู้จ้างปรับไหมเป็นเงินลูกบาศก์เมตรละ200 บาท ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จ้างตกลงให้ค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยผู้รับจ้างได้เฝ้ารักษาไม้ของกลางให้โจทก์ผู้จ้างแล้วไม้ของกลางหายไปในระหว่างนั้น ซึ่งโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าปรับไหมหรือเบี้ยปรับจากจำเลยตามสัญญา และศาลบังคับให้ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้รับตัวเงินไปแทนไม้ของกลางตามสัญญา ทั้งสัญญาไม่มีข้อกำหนดว่า ผู้จ้างจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างในกรณีไม้ของกลางสูญหายไป จำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างจากโจทก์ตามสัญญา และขอหักหนี้ค่าจ้างจากเบี้ยปรับได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เจ้าพนักงานป่าไม้ของโจทก์ได้ตรวจพบไม้หวงห้ามถูกลักลอบตัดจึงยึดไว้เป็นของกลาง และได้ทำสัญญาจ้างจำเลยเป็นผู้ดูแลเฝ้ารักษามีข้อกำหนดว่า ถ้าสิ่งซึ่งได้รับจ้างเฝ้ารักษาขาดหายหรือเป็นอันตรายไปผู้รับจ้างยอมให้ปรับไหมเป็นเงินลูกบาศก์เมตรละ 200 บาท ต่อมาปรากฏว่าไม้ของกลางสูญหายไปหมด เป็นเงินค่าปรับตามสัญญา 8,102 บาท ขอให้จำเลยใช้เงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะสัญญาท้ายฟ้องเป็นสัญญาฝากทรัพย์ เบี้ยปรับตามสัญญาสูงเกินไป และจำเลยมีสิทธิได้รับบำเหน็จค่าเฝ้ารักษา 400 บาท หากจะต้องเสียค่าปรับต้องหักหนี้ค่าเฝ้ารักษาก่อน

ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญาตามฟ้องเป็นสัญญาจ้างแรงงาน เบี้ยปรับตามสัญญาสูงเกินไป เห็นควรกำหนดเป็นเงิน 4,051 บาท จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างจากโจทก์ พิพากษาให้จำเลยชำระเบี้ยปรับ 4,051 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทำงานเฝ้ารักษาไม้ของโจทก์แล้วจึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างและขอหักหนี้จากเบี้ยปรับได้ พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงิน 3,651 บาทแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง จึงไม่มีเงินที่จะนำมาหักหนี้จากเบี้ยปรับได้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานกันซึ่งมีข้อกำหนดตามสัญญาว่า ผู้จ้างยอมให้ผู้รับจ้างคิดค่าจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางเป็นจำนวนเงิน 400 บาท นับแต่วันทำสัญญาจนกว่าผู้จ้างจะรับไม้ของกลางคืน หากไม้ของกลางขาดหายหรือเป็นอันตรายไป ผู้รับจ้างยอมให้ผู้จ้างปรับไหมเป็นเงินลูกบาศก์เมตรละ 200 บาท ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้จ้างตกลงให้ค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้ ดังนั้น ที่จำเลยผู้รับจ้างได้เฝ้ารักษาไม้ของกลางให้โจทก์ผู้จ้างแล้ว และไม้ของกลางสูญหายไประหว่างนั้น โจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าปรับไหมหรือเบี้ยปรับจากจำเลยตามสัญญาและศาลบังคับให้ ถือได้ว่าโจทก์ได้รับตัวเงินไปแทนไม้ของกลางตามสัญญา ทั้งสัญญาไม่มีข้อกำหนดว่าผู้จ้างจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างในกรณีไม้ของกลางสูยหายไป ในกรณีเช่นนี้ จำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างจากโจทก์ตามสัญญาและขอหักหนี้ค่าจ้างจากเบี้ยปรับได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share