คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4625/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ตามคำร้องของโจทก์จะเป็นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบ แต่คำร้องก็ได้กล่าวอ้างถึงเหตุที่การพิจารณาผิดระเบียบว่าเกิดจากการส่งหมายนัดของเจ้าพนักงานศาลไม่ชอบ ไม่อาจถือว่าโจทก์ได้ทราบกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ซึ่งแปลได้ว่าโจทก์ประสงค์จะแสดงให้ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควร จึงมาศาลไม่ได้ และขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181และการที่ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ จึงไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีโจทก์มีมูล ประทับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน 2541 ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 26 มกราคม 2542 เวลา 9 นาฬิกา หมายแจ้งวันนัดให้โจทก์ทราบ การส่งหมายนัด หากไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดไว้ ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของโจทก์หรือทนายโจทก์ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2541 เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายนัดไว้ ณ ภูมิลำเนาของโจทก์ วันที่ 26 มกราคม 2542 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 ต่อมาวันที่ 7 สิงหาคม 2543 โจทก์ยื่นคำร้อง ขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า มีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่หรือไม่ เห็นว่า แม้ตามคำร้องของโจทก์จะเป็นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบก็ตาม แต่คำร้องก็ได้กล่าวอ้างถึงเหตุที่การพิจารณาผิดระเบียบนั้นว่า เกิดจากการส่งหมายนัดของเจ้าพนักงานศาลไม่ชอบไม่อาจถือว่าโจทก์ได้ทราบกำหนดนัดสืบพยานโจทก์แล้ว จึงขอให้ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ใหม่นั้น ซึ่งพอแปลความหมายได้ว่า โจทก์ประสงค์จะแสดงให้ศาลเห็นได้ว่า มีเหตุสมควรจึงมาศาลไม่ได้และขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 181 ทั้งตามคำร้องของโจทก์ก็ได้แสดงเหตุที่โจทก์มาศาลไม่ได้ไว้ด้วยแล้วว่าเกิดจากการส่งหมายนัดของเจ้าพนักงานศาลผิดไปจากภูมิลำเนาของโจทก์ จึงไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ได้ทราบกำหนดนัดสืบพยานโจทก์แล้ว ซึ่งหากเป็นความจริงตามคำร้องก็นับว่ามีเหตุอันสมควรที่มาศาลไม่ได้ จึงชอบที่จะไต่สวนคำร้องของโจทก์เสียก่อนจึงจะวินิจฉัยได้ว่า ที่โจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดนั้นมีเหตุอันสมควรหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของโจทก์ โดยเห็นว่าการที่ศาลยกฟ้องเพราะเหตุโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดไม่ใช่กระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสองประกอบมาตรา 181 ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”

พิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2543 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share