คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความและเป็นฟ้องซ้ำศาลชั้นต้นสั่งให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องในคำพิพากษาและให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ซื้อที่ดินและห้องแถวจากเจ้าของเดิม ซึ่งได้ปลูกห้องแถวไม้รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์จำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าจากจำเลยที่ 1โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 รื้อถอนห้องแถวส่วนที่รุกล้ำออกไป แต่จำเลยขัดขืนขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนและเรียกค่าเสียหาย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ก่อนสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องว่าคดีพอวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ซึ่งทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องคือ คดีโจทก์ขาดอายุความและฟ้องซ้ำ ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยไม่จำต้องทำการสืบพยานต่อไป

ศาลชั้นต้นสั่งว่า เห็นควรรอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องนั้นในคำพิพากษาและให้ดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไป

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามไม่รับ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สั่งว่า เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รอไว้รวมวินิจฉัยสั่งคำร้องนั้นในคำพิพากษาและให้ดำเนินการสืบพยานต่อไปนั้นเป็นคำสั่งที่ไม่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องหรือเสร็จไปเฉพาะประเด็นแห่งคดีบางข้อตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 วรรค 2 ซึ่งจะทำให้คู่ความอุทธรณ์ฎีกาได้ตามมาตรา 227, 228 หากเป็นคำสั่งธรรมดาระหว่างพิจารณาเท่านั้น จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ พิพากษายกให้ยกฎีกาของจำเลยเสีย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป

Share