คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การรับสภาพหนี้ แม้ต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจ ตั้ง ตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้โจทก์ จึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ทำให้อายุความ สะดุดหยุดลง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน2528 จำเลยทั้งสองร่วมกันซื้อน้ำมันเครื่องจากโจทก์รวมเป็นเงิน20,413 บาท จำเลยทั้งสองรับสินค้าไปแล้วแต่ยังไม่ชำระเงินให้โจทก์ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2529 จำเลยทั้งสองได้ชำระค่าน้ำมันเครื่องให้โจทก์เป็นเงิน 5,000 บาท คงค้าง 15,413 บาทขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 15,413 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยไม่เคยซื้อน้ำมันตามฟ้องแต่เคยซื้อเมื่อ พ.ศ. 2524-2525 และชำระหนี้ให้แล้ว โจทก์หลอกลวงให้จำเลยที่ 2 สำคัญผิดว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์จริงจึงได้ลงชื่อไปในเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 เอกสารดังกล่าวไม่ใช่ใบส่งของ โจทก์นำหลังคากระบะรถไปจากจำเลยที่ 2 อ้างว่าเป็นการหักกลบลบหนี้และจำเลยที่ 2 ไม่ได้รับสภาพหนี้แทนจำเลยที่ 1 ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 15,413 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง (วันที่21 ตุลาคม 2530) ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว เอกสารหมาย จ.4 เป็นใบส่งของชั่วคราวของโจทก์ ระบุนามลุงขาว ซึ่งเป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของจำเลยที่ 1 ช่องรายการมีข้อความว่า โจทก์ได้รับชำระเป็นหลังคาไฟเบอร์กระบะเป็นจำนวนเงินในราคา 5,000 บาท จากยอดเงิน 20,413 บาทหักแล้วคงเหลือ (หนึ่งหมื่นห้าพันสี่ร้อยสิบสามบาท) และในช่องจำนวนเงินตั้งไว้ 20,413 บาท ลบด้วย 5,000 บาท คงเหลือ 15,413 บาทและมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อผู้ส่งของเห็นว่าข้อความและรายการในเอกสารดังกล่าวระบุชัดว่า จำเลยที่ 1 เป็นหนี้จำนวน 20,413 บาทและชำระหนี้บางส่วนด้วยหลังคาไฟเบอร์รถกระบะเป็นเงินจำนวน 5,000 บาทคงค้างอีก 15,413 บาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยลงลายมือชื่อรับสินค้าแทนจำเลยที่ 1 และเคยพูดขอผัดผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2 มอบหลังคาไฟเบอร์กระบะรถชำระหนี้ให้โจทก์เป็นการกระทำโดยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยายจึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 1 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงในวันที่ 16 กันยายน 2529 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยรับสภาพหนี้ และเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2529 ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน2 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ”
พิพากษายืน.

Share