คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นายอำเภอได้ตั้งให้สัสดีอำเภอ และปลัดอำเภอเป็นกรรมการไปรับผ้าของกระทรวงพาณิชย์จากจังหวัด เพื่อนำส่งอำเภอจัดการปันส่วนให้แก่ชาวนานั้น เป็นการแต่งตั้งให้ไปทำงานโดยชอบตามหน้าที่ราชการ เมื่อผู้ที่ได้รับแต่งตั้งไปกระทำผิดในหน้าที่ ซึ่งตนได้รับมอบ คือยักยอกเอาผ้าที่ไปรับมาจำนวนหนึ่งไว้ เช่นนี้ต้องมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
(อ้างฎีกาที่ 533/2485)
ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ม.319(3) ให้จำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.131 ให้จำคุก 5 ปี เป็นแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้

ย่อยาว

ได้ความว่า นายสมบูรณ์จำเลยที่ ๑ เป็นสัสดีอำเภอ นายอำนาจ จำเลยที่ ๒ เป็นปลัดอำเภอ ๆ สุวรรณภูมิ นายอำเภอสุวรรณภูมิ ได้ตั้งให้จำเลยทั้งสองเป็นกรรมการ มารับผ้าของกระทรวงพาณิชย์จากจังหวัดร้อยเอ็จ เพื่อนำส่งอำเภอจัดการปันส่วนให้แก่ชาวนา จำเลยทั้ง ๒ ไปรับผ้า ๑๒ มัดใหญ่ไปจากแผนกมหาดไทย จังหวัดร้อยเอ็จ นำใส่เกวียนเพื่อส่งอำเภอสุวรรณภูมิ แล้วยักยอกผ้าไป ๓ มัดใหญ่ โจทก์จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๓๑
ศาลชั้นต้นพิพากาษลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๑๙ (๓) จำคุกคนละ ๘ เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา ๑๓๑ จำคุกคนละ ๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายอำเภอสุวรรณภูมิ ได้ตั้งให้จำเลยเป็นกรรมการไปรับผ้า เพื่อนำส่งอำเภอ เช่นนี้นับว่าเป็นการแต่งตั้งให้ไปทำงานโดยชอบตามหน้าที่ราชการ เมื่อจำเลยไปกระทำผิดหน้าที่ซึ่งตนได้รับมอบ จำเลยก็ต้องมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๓๑ จึงพิพากษายืน

Share