คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตบปากโจทก์ 2 ครั้ง ต่อหน้าคนประมาณ 60 คน ไม่มีบาดแผล เป็นแต่ริมฝีปากบนบวมใช้เวลารักษา 3 วัน บาดแผลของโจทก์ดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จิตใจของโจทก์ เหตุที่ให้เกิดอันตรายแก่จิตใจต้องขึ้นอยู่กับการกระทำของจำเลย ประกอบบาดแผลของโจทก์ผู้ถูกทำร้าย มิได้ขึ้นกับความรู้สึกของโจทก์ว่าเป็นการหยามน้ำใจต่อหน้าคนทั้งปวง หรือเป็นการทำร้ายจิตใจให้เกิดความหวาดหวั่นระแวงอยู่ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจตบหน้าโจทก์ ๒ ครั้ง เป็นเหตุให้ริมฝีปากของโจทก์ช้ำบวม แล้วชักปืนจะยิงโจทก์ แต่มีผู้อื่นขัดขวางจึงยิงไม่ได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕, ๒๘๘, ๘๐, ๙๐
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ ปรับ ๒๐๐ บาท คำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการหยามน้ำใจโจทก์ต่อหน้าคนทั้งปวง เป็นการทำร้ายจิตใจของโจทก์ให้เกิดความหวาดหวั่นระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยใช้มือตบปากโจทก์ ๒ ครั้ง ไม่มีบาดแผล เป็นแต่ริมฝีปากบนบวม ใช้เวลารักษา ๓ วัน ต่อหน้าคนประมาณ ๖๐ คนนั้น บาดแผลของโจทก์ดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่จิตใจของโจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ เหตุที่ให้เกิดอันตรายแก่จิตใจของโจทก์ตามมาตรา ๒๙๕ นั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของจำเลยประกอบบาดแผลของโจทก์ผู้ถูกทำร้าย มิได้ขึ้นกับความรู้สึกของโจทก์ดังโจทก์ฎีกา ที่ว่าทำให้จิตใจของโจทก์เกิดความหวาดหวั่นระแวงอยู่ตลอดเวลา
พิพากษายืน

Share