คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเช่าห้องพิพาทใช้เป็นที่เก็บสินค้าและสัมภาระซึ่งมีไว้ขายแม้จะมีบริวารของจำเลยหลับนอนในห้องพิพาทก็เพื่อเฝ้าดูแลรักษาสินค้าเพื่อประโยชน์ในทางการค้าของจำเลยห้องพิพาทจึงไม่เป็นที่อยู่อาศัยจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยอ้างว่าอาศัยแต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเช่าแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติ ควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 ดังนี้แม้โจทก์จะกล่าวถึงมูลกรณีเดิมว่าจำเลยเข้าอยู่ทีแรกโดยการเช่าหรืออาศัยก็ตาม ก็เป็นเพียงการกล่าวถึงมูลกรณีเดิมซึ่งไม่ใช่สารสำคัญเพราะจำเลย จะอยู่โดยการเช่าหรืออาศัยโจทก์ก็ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจาก ห้องพิพาทโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 แล้ว แสดงว่าการเช่าหรือการอาศัยสิ้นสุดแล้วการอยู่ต่อมาจึงเป็น การละเมิด การที่ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยจึงไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนในวันนัดสืบพยานจำเลยโจทก์ไม่มาศาล ศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานจำเลยได้ 1 ปากจำเลยขอเลื่อนไป ถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดต่อมา โจทก์มาศาลถือว่าโจทก์มาศาลเมื่อยังไม่พ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานของตนเข้าสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรค 3 อนุมาตรา (1)เพราะจำเลยยังสืบพยานไม่หมดโจทก์จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบตลอดจนระบุอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2510)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาท และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยและโจทก์ได้บอกให้จำเลยออกไปจากห้องพิพาทแล้ว

จำเลยที่ 1 ให้การว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทจากโจทก์แต่ได้เลิกเช่าคืนห้องให้แก่โจทก์แล้ว และไม่เคยเกี่ยวข้องกับห้องพิพาทอีกเลย

จำเลยที่ 2 ให้การว่ามิได้อาศัยแต่เช่าห้องพิพาทจากโจทก์เป็นที่อยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ. 2504 ไม่เคยค้างค่าเช่า โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกการเช่าและฟ้องขับไล่จำเลย โจทก์ไม่เสียหาย ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ 1 ออกไปจากห้องพิพาทก่อนโจทก์ฟ้องแล้ว จำเลยที่ 2 อาศัยห้องโจทก์อยู่ ไม่ได้รับความคุ้มครองพิพากษาให้ขับไล่จำเลยที่ 2 และให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์โดยผู้พิพากษาซึ่งนั่งพิจารณาในศาลชั้นต้นรับรองให้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยเช่า แต่ไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ โจทก์มาศาลเมื่อยังไม่พ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานของตนเข้าสืบ จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบและระบุอ้างเพิ่มเติมได้ แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยอาศัย แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยเช่า ก็ไม่นอกฟ้องและผิดประเด็นอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้องโจทก์ได้ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกจากห้องพิพาทแล้ว จึงฟ้องขับไล่จำเลยได้ พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 2 เช่าห้องพิพาทมิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยแต่ใช้เป็นที่เก็บสินค้าและสัมภาระซึ่งมีไว้ขาย แม้จะมีบริวารของจำเลยหลับนอนในห้องพิพาทก็เพื่อเฝ้าดูแลรักษาสินค้าเพื่อประโยชน์ในทางการค้าของจำเลย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่า พ.ศ. 2504 ที่จำเลยฎีกาว่าเมื่อฟังว่าจำเลยเช่า ต้องยกฟ้องนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าห้องพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยอาศัย โจทก์ต้องการห้องคืนบอกกล่าวให้จำเลยออกก็ไม่ออก ขืนอยู่โดยไม่มีสิทธิเป็นการละเมิด ขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าเช่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดินฯ จึงเป็นการยอมรับว่าจำเลยได้อยู่ในห้องพิพาทโจทก์จริง แต่จำเลยจะอาศัยหรือเช่าไม่ใช่สารสำคัญ เพราะเป็นการกล่าวถึงมูลกรณีเดิมว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้องพิพาทได้อย่างไรแม้จะฟังว่าจำเลยเข้าอยู่อาศัยโดยการเช่า ก็ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง และเมื่อจำเลยไม่ได้เช่าอยู่อาศัย ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะฯ การเช่าไม่มีกำหนดเวลา และโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจากห้องพิพาทโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 แล้วการเช่าก็สิ้นสุด จำเลยขืนอยู่ต่อมาจึงเป็นละเมิด การที่ศาลพิพากษาขับไล่จำเลย จึงไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ หรืออ้างพยานเพิ่มเติมนั้นเห็นว่าจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ในวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ไม่มาศาลศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และดำเนินการสืบพยานได้1 ปาก จำ เลยขอเลื่อนถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดต่อมาโจทก์มาศาลถือว่าโจทก์มาศาลเมื่อยังไม่พ้นเวลาที่โจทก์จะนำพยานของตนเข้าสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรค 3 อนุมาตรา (1)เพราะจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน และยังสืบพยานของจำเลยไม่หมดโจทก์จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบ ตลอดจนระบุอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share