คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาเหตุเกิดและอยู่ในระหว่าง สอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. 2499 อัยการโจทก์ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงก่อน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดกว่ากฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 เพราะกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 306 มีกำหนดโทษจำคุกขั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฉ้อโกง และขอให้จำเลยใช้ราคาเงินแห่ง ๒๔,๙๑๗ บาท ให้แก่ผู้เสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๔๙๙
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
ศาลอาญาพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทุกคนมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๐๔, ๓๐๖ และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๓๔๒ ซึ่งเป็นบทหนัก ตามมาตรา ๙๐ และเป็นคุณแก่จำเลย โดยให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ ๑ ปี กับให้จำเลยทั้งสามคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ เป็น ๒๙,๙๑๗ บาท แก่ผู้เสียหายด้วย
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ เห็นชอบด้วยศาลชั้นต้นในข้อที่พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดและวางโทษจำเลยมานั้น เว้นแต่ในข้อที่ศาลชั้นต้นอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๒ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาบังคับแก่คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นฟ้องด้วย เพราะคดีนี้เกิดก่อนประกาศใช้ประกาศกฎหมายอาญา ทั้งกฎหมายลักษณะอาญา (เดิม) มาตรา ๒๐ ก็มีอัตราโทษจำคุก ๖ เดือน ถึง ๕ ปี และปรับตั้งแต่ ๑๐๐ บาท ถึง ๕,๐๐๐ บาท ด้วยอีกโสดหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๒ จึงไม่มีส่วนเป็นคุณแก่จำเลยคดีนี้อย่างใด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญา เฉพาะบทลงโทษ โดยให้ใช้กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๐๖ บังคับแก่คดีนี้ นอกจากที่แก้แล้วให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอาญา
จำเลยที่ ๒ – ๓ ฎีกา
คดีคงมาสู่ศาลฎีกาแต่เฉพาะปัญหากฎหมาย ๒ ข้อ
ในประการต้นที่จำเลยค้านว่า ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์เพราะไม่ปรากฏว่าได้มีการไต่สวนมูลฟ้องในศาลแขวงมาก่อน ข้อนี้ปรากฏว่า เหตุเรื่องนี้เกิดและอยู่ระหว่างสอบสวนของพนักงานสอบสวนก่อนใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ พ.ศ. ๒๔๙๙ อัยการโจทก์จึงมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องดังจำเลยโต้แย้งมา ส่วนข้อที่ จำเลยค้านว่า บทกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์อ้างมาลงโทษจำเลยไม่ถูกต้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้ แม้จะเกิดก่อนใช้ประมวลกฎหมายอาญา ก็ดี แต่เมื่อพิจารณาบทลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๐๖ เปรียบเทียบกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๒ แล้ว จะเห็นได้ว่า กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๖๐ มีกำหนดโทษจำคุกชั้นต่ำและอัตราปรับอย่างต่ำเป็นบทบังคับไว้ด้วย เป็นบทลงโทษที่หนักกว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๒ ดังนี้ จึงต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๒ ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย มาปรับกับความผิดในเรื่องอย่างที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษามาแล้ว
พิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทุกประการ

Share