แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงเป็นคดีมีข้อพิพาทด้วยเรื่องสิทธิครอบครองเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อที่พิพาทราคาเพียง 8,000 บาทจึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน 1 แปลงตั้งอยู่หมู่ที่ 10 บ้านกุดกะเสียน ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี เดิมที่ดินแปลงนี้มีนายวิวัฒน์ ครองยุติเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง นายวิวัฒน์ขายให้โจทก์เมื่อวันที่20 มิถุนายน 2531 จำเลยเป็นผู้อาศัยในที่ดินดังกล่าวจากนายวิวัฒน์หลังจากที่โจทก์ซื้อที่ดินแล้วจึงแจ้งให้จำเลยทราบและบอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนกระท่อมและย้ายครอบครัวออกจากที่ดินของโจทก์แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยส่งมอบที่ดินให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อยห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ต่อไป ให้จำเลยรื้อถอนกระท่อมหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินของโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมรื้อถอน ขอให้ศาลสั่งให้โจทก์รื้อถอนเองโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า เดิมที่ดินตามฟ้องเป็นของนางเหน็ง ครองยุติต่อมาประมาณปี 2525 นางเหน็งได้มอบการครอบครองให้จำเลยจำเลยจึงได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวโดยเปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน จำเลยจึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินแปลงนี้จำเลยไม่เคยขออาศัยอยู่ในที่ดินแปลงนี้จากนายวิวัฒน์ ครองยุติ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกจากที่ดินภายใน 7 วัน เป็นการไม่ชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ ให้รื้อถอนกระท่อมหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินโจทก์และส่งมอบที่ดินพิพาทให้โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดินต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ดังนี้เป็นคดีมีข้อพิพาทด้วยเรื่องสิทธิครอบครองจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อที่พิพาทมีราคาเพียง 8,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยรับมอบการครอบครองจากนายวิวัฒน์เจ้าของเดิมและได้เข้าทำประโยชน์ต่อมา โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองที่พิพาทใช้ยันจำเลยได้และมีอำนาจฟ้องคดีนี้นั้น เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาโจทก์มาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาโจทก์