คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อความผิดเกิดขึ้นในเขตอำนาจศาลจังหวัดปัตตานี แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ในท้องที่จังหวัดสงขลาและพนักงานสอบสวนในท้องที่ดังกล่าวได้ทำการสอบสวนความผิดตามที่ถูกกล่าวหานี้แล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลาให้ชำระคดีนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1) ซึ่งเป็นข้อยกเว้นของมาตรา 22 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจออกเช็คของธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัดสาขาปัตตานี มอบให้ผู้เสียหายเป็นการชำระหนี้ ผู้เสียหายได้นำเช็คไปเข้าบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาสงขลา เพื่อเรียกเก็บเงินจากธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาปัตตานี ต่อมาธนาคารดังกล่าวได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น เหตุเกิดที่ตำบลบ่อย่าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา และตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

ก่อนสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าคดีเกิดขึ้นนอกเขตอำนาจศาล โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยมิได้กระทำการใดอันเป็นความผิดคดีนี้ในเขตศาลจังหวัดสงขลา และไม่มีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 ประกอบมาตรา 161 ที่แสดงว่าคดีจะชำระที่ศาลนี้ได้ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลจังหวัดสงขลามีอำนาจชำระคดีนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1) พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณา พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1)เป็นข้อยกเว้นมาตรา 22 วรรคแรก ในเมื่อเจ้าพนักงานทำการสอบสวนในอีกท้องที่หนึ่งนอกเขตของศาลที่ความผิดเกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้นจะชำระที่ศาลซึ่งท้องที่ที่ทำการสอบสวนนั้นอยู่ในเขตอำนาจก็ได้ ฉะนั้น เมื่อความผิดเกิดขึ้นในเขตศาลจังหวัดปัตตานีแต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ในท้องที่จังหวัดสงขลา และพนักงานสอบสวนในท้องที่ดังกล่าวได้ทำการสอบสวนความผิดตามที่ถูกกล่าวหานี้แล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องที่ศาลจังหวัดสงขลาให้ชำระคดีนี้ได้

พิพากษายืน

Share