คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4548/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เอกสารที่อ.ผู้เสียหายทำให้จำเลย มีข้อความระบุว่าอ.รับรองว่าอ.ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยแล้วและไม่ติดใจเอาความต่อไป ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกันแล้ว เมื่อความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยครอบครองรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 80-7857 ปราจีนบุรี ราคา 500,000 บาทและเครื่องรับวิทยุเทปติดรถยนต์ 1 เครื่อง ราคา 2,000 บาทของห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็ม.ซี.สหะการ ผู้เสียหาย แล้วเบียดบังเอารถยนต์บรรทุกและเครื่องรับวิทยุเทปดังกล่าวไปขายให้บุคคลอื่นโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 (ที่ถูกเป็นมาตรา 352 วรรคแรก)จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก1 ปี 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า จำเลยยื่นฎีกาและมีเอกสารแนบท้ายฎีกาเป็นเอกสารของห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็ม.ซี.สหะการผู้เสียหาย มีข้อความระบุว่า “ห้างหุ้นส่วนเอ็ม.ซี.สหะการรับรองว่าห้างฯ ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากนายอมร แก้วโสนดแล้วและไม่ติดใจเอาความต่อไป” ท้ายข้อความดังกล่าวมีนายมนัส ชัยสิทธิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการลงลายมือชื่อและประทับตราห้างหุ้นส่วนจำกัดเอ็ม.ซี.สหะการ โจทก์ได้รับสำเนาฎีกาแล้วมิได้แก้ฎีกาหรือแถลงคัดค้านว่าเอกสารดังกล่าวมิใช่เอกสารที่ผู้เสียหายทำมอบให้จำเลยแต่อย่างใด กรณีจึงต้องฟังว่าเป็นเอกสารที่ผู้เสียหายทำขึ้นจริงตามที่จำเลยกล่าวอ้างและข้อความในเอกสารดังกล่าวก็ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เมื่อความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ”

Share