คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์นำสืบว่าจำเลยได้ชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 จำนวน 2,000 บาท จำเลยนำสืบว่าไม่ได้ชำระ ภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์หรือไม่ ย่อมตกแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 แต่โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงว่าจำเลยเป็นผู้โอนเงินดังกล่าวชำระหนี้แก่โจทก์ ข้ออ้างของโจทก์จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครั้งสุดท้ายในวันดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นสมาชิกบัตรซิตี้แบงก์วีซ่าคลาสสิคของโจทก์ จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 2,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 200,420.30 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19.5 ต่อปี ของเงินต้นจำนวน 122,216.20 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยชำระเงินจำนวน 2,000 บาท เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 ให้แก่โจทก์ แต่ได้ชำระครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2541 จำนวน 6,600 บาท ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยทั้งสองแถลงว่า ติดใจต่อสู้ในเรื่องอายุความ สละประเด็นในเรื่องฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองเป็นสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ วีซ่า ของโจทก์และได้นำบัตรดังกล่าวไปใช้ตามข้อบังคับและเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตหลายครั้ง โจทก์ได้ทดรองจ่ายเงินแทนจำเลยทั้งสองแล้วเรียกเก็บเงินจากจำเลยทั้งสอง แต่จำเลยทั้งสองผิดนัด เมื่อคำนวณยอดหนี้ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2541 จำเลยทั้งสองเป็นหนี้ต้นเงิน 122,216.20 บาท เบี้ยปรับ 6,200 บาท และดอกเบี้ย 18,178.08 บาท รวมเป็นเงิน 146,594.29 บาท คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 จำนวน 2,000 บาท หรือไม่ เห็นว่า โจทก์และจำเลยทั้งสองนำสืบรับข้อเท็จจริงว่า วันที่ 22 มีนาคม 2541 จำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้แก่โจทก์เป็นเงิน 6,600 บาท และโจทก์นำสืบอ้างว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 จำนวน 2,000 บาท จำเลยทั้งสองนำสืบว่าไม่ได้ชำระ ภาระการพิสูจน์ว่าจำเลยทั้งสองชำระหนี้ให้แก่โจทก์หรือไม่ย่อมตกแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 แต่นายนัสธกานต์ กาญจนวงศ์ พยานโจทก์เบิกความว่า ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ชำระเงินดังกล่าว ทั้งโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้โอนเงินจำนวนดังกล่าวชำระหนี้แก่โจทก์ ข้ออ้างของโจทก์จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ที่ศาลล่างทั้งสองไม่เชื่อว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 จำนวน 2,000 บาท และฟังว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ 2 ปี นั้น จึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share