คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติไว้พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่จำเป็น(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา272-273) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับ ผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขัง ดังที่บัญญัติไว้ในภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (มาตรา 275-276) แต่ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ทำการจับหรือจำขังเพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องเช่า พ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยยังขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องดังนี้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฏิบัติตามคำบังคับได้

ย่อยาว

เดิมศาลแขวงพระนครเหนือได้พิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่เช่าของโจทก์ กับให้ใช้ค่าเสียหายพ้นกำหนดคำบังคับแล้ว จำเลยและบริวารยังไม่ออก โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยมากักขังฐานไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ในชั้นแรกจำเลยขอยืดเวลาต่อไป โจทก์ยินยอมศาลจึงงดการกักขังจำเลยไว้ชั่วคราว ต่อมาครบกำหนดที่ขอผ่อนผันแล้วจำเลยยังขัดขืนไม่ยอมออก โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายจับจำเลยมากักขัง ศาลแขวงพระนครเหนือออกหมายจับ

ต่อมาตำรวจได้ส่งตัวจำเลยต่อศาล จำเลยแถลงว่า พร้อมที่จะส่งห้องเช่าคืน โจทก์แถลงว่า จำเลยได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลแล้วศาลจึงสั่งปล่อย

จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ออกหมายจับจำเลยว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ศาลออกหมายจับจำเลยถูกต้องแล้ว

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุดศาลจะจับกุมหรือขังจำเลยก่อนคำพิพากษาถึงที่สุดไม่ได้นั้น เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของตนจึงไม่ใช่เรื่องวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษา แต่เป็นการดำเนินการเมื่อพิพากษาแล้ว

ส่วนข้อที่ว่า คดีนี้มีแต่คำบังคับยังไม่มีหมายบังคับคดีจะมีการจับกุมหรือกักขังจำเลยไม่ได้ นั้น เห็นว่า คำบังคับ คือคำสั่งแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติไว้ พร้อมทั้งระบุระยะเวลา และเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่จำเป็น (มาตรา 272, 273) และมาตรา 273 นี้ กำหนดวิธีบังคับไว้ในตอนท้ายว่า ถ้าผู้ต้องคำบังคับมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับผู้นั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับหรือจำขัง ดังที่บัญญัติไว้ในวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1 กล่าวคือ ถ้าเป็นกรณีที่จะดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ศาลก็ออกหมายบังคับคดี (มาตรา 275, 276) ถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ทำการจับหรือจำขัง เพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้แล้วแต่เรื่อง มาตราที่อยู่ในวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 หมวด 1 ที่ว่าด้วยการจับหรือจำขัง ซึ่งมาตรา 273 ตอนท้าย ให้นำมาใช้ก็มีแต่มาตรา 297 ถึง 302 ฉะนั้นแม้ในมาตราเหล่านี้ มีมาตรา 297 เป็นต้น จะใช้คำว่า “จับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งจงใจไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดี ซึ่งออกบังคับเอาแก่ตน” ก็ดี แต่เมื่ออ่านร่วมกับมาตรา 273 และคำนึงถึงว่ากรณีเช่นนี้ ไม่มีทางจะบังคับคดีในทางเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีทางจะออกหมายบังคับคดีแล้ว ก็ต้องเข้าใจว่า เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ก็จับกุมและกักขังตามมาตรา 297 ได้ทีเดียวจึงพิพากษายืน

Share