แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอาญาที่เป็นความผิดต่อส่วน+นั้น เมื่อโจทก์บรรยายมาใน+แล้วว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฏหมายแล้ว ฝ่ายจำเลยก็มิได้คัดค้านร้องทุกข์เช่นนี้ คดีไม่จำเป็นต้องนำสืบถึงการร้องทุกข์ อ้างฎีกาที่ 489/2488 ทั้งทางพิจารณาที่ปรากฏก็ไม่ได้ความว่าคดีไม่มีการร้องทุกข์ ดังนี้จำเลยจะหยิบยกเป็นข้อโต้เถียงชั้นศาลสูงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและข่มขืนกระทำชำเราตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๒๔๓, ๓๒๔ และกล่าวด้วยว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฏหมายแล้ว
จำเลยปฏิเสธความรับผิด แต่มิได้ให้การต่อสู้คัดค้านในเรื่องที่ผู้เสียหายร้องทุกข์ประการใด
ศาลชั้นต้นฟังว่า ไม่มีการร้องทุกข์ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า มีการร้องทุกข์แล้ว พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๓ ซึ่งเป็นบทหนักบทเดียว
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดเจนว่า ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฏหมายแล้ว ฝ่ายจำเลยมิได้ต่อสู้คัดค้านว่าผู้เสียหายไม่ได้มีการมีการร้องทุกข์ประการใด คดีจึงไม่จำเป็นต้องมีการนำสืบถึงการร้องทุกข์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๘๙/๒๔๘๘) ทั้งตามทางพิจารณาที่ปรากฏ ก็ไม่ได้ความว่าคดีนี้ไม่มีการร้องทุกข์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ส่วนข้อเท็จจริง เห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริง จึงพิพากษายืน