แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดแล้วไม่รับฎีกาคำสั่งของจำเลย
จำเลยเห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นไม่ชอบ เพราะจำเลยได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับฉุกเฉินและขอวางเงินประกันความเสียหายแล้วศาลชั้นต้นมิได้สั่งอนุญาตให้วางเงินแต่สั่งให้รวบรวมสำนวนส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา จำเลยมิได้จงใจ หรือขัดขืนไม่วางเงินแต่อย่างใด แม้ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่ง ไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งก็ตาม คำสั่งนี้ก็ไม่เป็นที่สุดเพราะจะเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 ต้องเป็นคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยตามเนื้อหาสาระที่จำเลยอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งให้จำเลยวางเงินประกัน ความเสียหายแล้วสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 84)
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวาร ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากอาคารตึกแถวเลขที่ 567/27ถนนราชปรารถแขวงมักกะสันเขตพญาไท(ราชเทวี) กรุงเทพมหานครและส่งมอบอาคารพิพาทคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย ให้จำเลยชำระ ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 3,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 17 ธันวาคม 2533) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวาร จะขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากอาคารตึกแถวพิพาท และส่งมอบ อาคารตึกแถวดังกล่าวให้แก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้น สั่งว่า จากคำฟ้องและคำให้การเห็นว่าขณะยื่นฟ้องค่าเช่า เดือนละ 500 บาท คดีต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสองไม่รับอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหา ประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้อง (อันดับ 67,75)
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 78)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 115)
คำสั่ง
การที่ศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งดังกล่าวโดยให้ยกคำร้องของ จำเลยด้วยเหตุ จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้ แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางต่อศาล มิใช่คำสั่งยืน ตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ด้วยเนื้อหาใน อุทธรณ์ของจำเลยอันจะเป็นคำสั่งซึ่งเป็นที่สุดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรก จำเลย มีสิทธิฎีกาได้ ให้รับฎีกาของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป