คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4500/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ตายเตะต่อยและใช้ขวดตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวดตีผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่ผู้ตายเมาสุราและเข้าไปทำร้ายจำเลยก่อนจำเลยก็ชอบที่จะป้องกันได้ตามกฎหมาย แต่เนื่องจากจำเลยทราบอยู่แล้วว่าผู้ตายชอบด่าและทำร้ายคนในบ้าน ทั้งผู้ตายมีอายุมากและยังเมาสุรา จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องรุนแรงจนถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็ได้ การที่จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายตรงบริเวณที่สำคัญของร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ประกอบด้วย มาตรา 69 จำคุก 3 ปีจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยตีผู้ตายหรือไม่ และจำเลยป้องกันตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น โจทก์มีนางหล้า งามสุด เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายด่านางประเสริฐบุตร แล้วบ่นต่อไปอีกเรื่อย ๆ ต่อมาพยานได้ยินเสียงผู้ตายว่าไอ้เชียรมึงให้ควยกูหรือแล้วผู้ตายเดินไปที่ครัวทันใดนั้นพยานได้ยินเสียงโครมครามที่ครัว พยานรู้สึกกลัวจึงวิ่งลงจากบ้านไปหลบอยู่ใต้ถุน เพราะเคยถูกผู้ตายตบตีบ่อย ๆสักพักหนึ่งได้ยินเสียงขวดแตก แล้วได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ยและพูดว่ามึงทำกูได้ เมื่อเสียงผู้ตายเงียบ พยานเดินไปที่ครัวพบจำเลยเดินลงจากครัวออกจากบ้านไป ส่วนจำเลยต่อสู้ว่าผู้ตายเตะต่อยจำเลยและใช้ขวดตีจำเลยเฉียดศีรษะ จำเลยจึงจับขวดไว้และยื้อแย่งขวดกัน ขวดตกลงไปแตก ผู้ตายเสียหลักล้มลงเห็นว่าในขณะเกิดเหตุคงมีผู้ตายกับจำเลยอยู่ด้วยกันเพียง 2 คนนางหล้าเป็นภรรยาผู้ตายและเป็นแม่ยายของจำเลย และเคยถูกผู้ตายทำร้ายเสมอเวลาเมาสุรา น่าเชื่อว่านางหล้าเบิกความไปตามจริงและจากบาดแผลที่ผู้ตายได้รับนั้น นายแพทย์มานะ จันทรชาติเบิกความยืนยันว่าบาดแผลที่ท้ายทอยเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อพิจารณาถึงที่เกิดเหตุตามภาพถ่ายหมาย ป.จ.5จะเห็นได้ว่าตรงที่ผู้ตายล้มลงนอนตายนั้นเป็นพื้นกระดาน หากผู้ตายเสียหลักล้มลงตามที่จำเลยต่อสู้บาดแผลจะไม่เกิดที่ท้ายทอยเมื่อนำคำเบิกความของนางหล้าที่เบิกความว่าได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ยและพูดว่ามึงทำกูได้มาประกอบแล้ว พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่า จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายที่ท้ายทอยจริงข้อต่อสู้ของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ ในปัญหาว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ได้ความว่าผู้ตายเข้าไปหาจำเลยซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในครัว และมีเสียงโครมคราม จำเลยนำสืบว่าผู้ตายเตะต่อยจำเลยแล้วใช้ขวดตีจำเลยก่อน เห็นว่าโจทก์ไม่มีพยาน เห็นว่าจำเลยตีผู้ตายเพียงฝ่ายเดียว ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าผู้ตายเตะต่อยและใช้ขวดตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้ขวดตีผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่ผู้ตายเมาสุราและเข้าไปทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยก็ชอบที่จะป้องกันได้ตามกฎหมาย แต่เนื่องจากจำเลยทราบอยู่แล้วว่าผู้ตายชอบด่าและทำร้ายคนในบ้าน ทั้งผู้ตายมีอายุมากและยังเมาสุรา จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องรุนแรงจนถึงกับเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็ได้ การที่จำเลยใช้ขวดตีผู้ตายตรงบริเวณที่สำคัญของร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายนั้น จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ และโทษที่ศาลอุทธรณ์กำหนดมานั้นเหมาะสมแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share