คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปรับบทลงโทษผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510มาตรา 119 วรรคหนึ่ง ต้องปรากฏว่าผู้กระทำได้ขายหรือสั่งเข้ามาโดยรู้ว่าเป็นยาปลอม ตามฟ้องโจทก์มิได้กล่าวว่าจำเลยได้กระทำโดยรู้ว่าเป็นยาปลอม และจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับว่าได้รู้ว่าของกลางเป็นยาปลอมแต่แรก เพิ่งรู้ภายหลังเมื่อได้พิสูจน์แล้วจึงลงโทษจำเลยตามวรรคหนึ่งไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน ณ สถานที่ขายยาชื่อร้านเต็กอันตึ๊ง ได้บังอาจมียาไดไฮโดรเสตปโตไมซินซัลเฟต แต่แจ้งในฉลากยาที่กล่องและที่ขวดว่าเป็นยาดานาไมซินซัลเฟท อันเป็นยาที่แสดงชื่อยาอื่นซึ่งมิใช่ความจริง และเป็นยาและวัตถุที่ทำเทียมทั้งหมดว่าเป็นยาแท้ อันเป็นยาปลอมตามกฎหมาย จ่ายแจกและแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ในการค้าอันเป็นการขายยาปลอมฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510มาตรา 72, 73, 119 และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพไม่ขอต่อสู้คดี และว่าจำเลยมียาตามฟ้องไว้เพื่อจำหน่ายโดยซื้อจากตัวแทนขายส่ง ต่อมาจำเลยถูกจับโดยได้พิสูจน์แล้วว่าได้ใช้ฉลากยาที่กล่องและที่ขวดว่าเป็นยาคานาไมซินซัลเฟท เมื่อทราบข้อหาดังกล่าวแล้ว จำเลยรู้สึกสำนึกในความผิดนี้เป็นอย่างมากขอให้ลงโทษสถานเบา

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510มาตรา 72, 73, 119 ให้ลงโทษตามมาตรา 72, 119 วรรคสอง ปรับ 1,000 บาท ลดให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว ปรับ 500 บาท บังคับค่าปรับตามมาตรา 29, 30 ริบของกลาง

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510มาตรา 119 วรรคแรก

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 119 บัญญัติว่า”ผู้ใดขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาปลอม อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72(1) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท

ถ้าผู้กระทำตามวรรคหนึ่ง กระทำโดยไม่รู้ว่าเป็นยาปลอม ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงห้าพันบาท” ตามบทมาตราดังกล่าว การจะปรับบทลงโทษผู้กระทำการตามวรรคหนึ่งอันเป็นบทหนัก ต้องปรากฏว่าผู้กระทำได้ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาโดยรู้ว่าเป็นยาปลอม แต่ตามฟ้องมิได้กล่าวว่าจำเลยได้กระทำโดยรู้ว่าเป็นยาปลอม และจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับว่าได้รู้ว่าของกลางเป็นยาปลอมแต่แรก จำเลยเพิ่งรู้ว่าเป็นยาปลอมภายหลังเมื่อได้พิสูจน์แล้ว ดังนี้ จะถือว่าจำเลยได้กระทำโดยรู้ว่าเป็นยาปลอมหาได้ไม่ จึงลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 119 วรรคหนึ่ง ไม่ได้

พิพากษายืน

Share