คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยปฏิบัติคำบังคับเพียงบางส่วน ยังไม่ได้รื้อสิ่งปลูกสร้างบางอย่างออกไปขอให้เรียกจำเลยมาสอบถามเพื่อบังคับคดีต่อไป จำเลยแก้ว่าสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวนั้นจำเลยปลูกขึ้นใหม่โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดโจทก์ และต่อมาได้สอบเขตแล้วปรากฏว่าวัดโจทก์รุกล้ำที่ดินของผู้อื่นในส่วนที่จำเลยเช่ามา ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานบางส่วนแล้วสั่งงดสืบพยานและเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างของจำเลยยังอยู่ในที่ดินโจทก์ให้เรียกจำเลยมาสอบถามในการที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วสั่งใหม่ โจทก์ฎีกาว่า (ในระหว่างอุทธรณ์) จำเลยได้ปฏิบัติตามคำบังคับแล้ว ไม่มีประโยชน์ในการที่จะไต่สวนต่อไปดังนี้ศาลฎีกาย่อมพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้ยกคำร้องโจทก์เสีย

ย่อยาว

ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยปฏิบัติตามคำบังคับของศาลเพียงบางส่วน ยังไม่ได้รื้อรั้ว โรงงาน โรงกลึง ฯลฯ ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินของโจทก์ ขอให้เรียกจำเลยมาสอบถามเพื่อบังคับคดีต่อไป (ขอให้เรียกมาสอบถามในการที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับถ้าไม่มีข้อแก้ตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็ขอให้กักขังนายสว่าง จารุสรซึ่งเป็นกรรมการไว้จนกว่าจะปฏิบัติตามคำบังคับ)

จำเลยยื่นคำร้องแก้ว่า ได้ปฏิบัติคำบังคับครบถ้วนแล้ว สิ่งปลูกสร้างที่โจทก์ว่ายังอยู่ในที่ของโจทก์นั้น จำเลยปลูกขึ้นใหม่โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดโจทก์ซึ่งไม่รู้เขตแน่นอนต่อมารังวัดสอบเขตแล้วปรากฏว่าวัดโจทก์รุกล้ำที่ดินผู้อื่นในส่วนที่จำเลยเช่ามา สิ่งที่หาว่าจำเลยปลูกรุกล้ำจึงไม่เป็นความจริง

ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานได้บางคน พิจารณาประกอบเอกสารที่จำเลยอ้างแล้ว ให้งดสืบพยาน เห็นว่า สิ่งปลูกสร้างของจำเลยยังอยู่ในที่ดินของโจทก์ การที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ยอมให้จำเลยปลูกขึ้นใหม่ก็จะต้องไปว่ากล่าวกับโจทก์อีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ให้เรียกจำเลยมาสอบถามในการที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ถ้าข้อเท็จจริงได้ความดังข้ออ้างของจำเลยสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นก็ไม่ใช่ทรัพย์ที่จะต้องบังคับตามคำพิพากษาจำเลยย่อมโต้แย้งคัดค้านมิให้บังคับคดีแก่ทรัพย์นั้น ๆ ได้ และไม่จำต้องว่ากล่าวเป็นคดีใหม่ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วสั่งใหม่

โจทก์ยื่นคำร้องว่า ในระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์นั้นจำเลยได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์หมดแล้วขอให้เรียกจำเลยมาเจรจากัน โดยโจทก์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไปแต่ปรองดองกันไม่ได้ ในระหว่างนั้นโจทก์ยื่นฎีกาว่า เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามคำบังคับแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ในการที่จะไต่สวนต่อไป

ศาลฎีกาเห็นว่า ได้ความว่าจำเลยได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอันเป็นข้อพิพาทในคดีนี้ไปหมดแล้ว ดังนี้ ไม่มีอะไรที่จะบังคับจำเลยตามคำร้องของโจทก์อีก ไม่จำเป็นต้องดำเนินการไต่สวนต่อไปพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกคำร้องโจทก์เสีย

Share