คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4483/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลจังหวัดอุทัยธานีมีนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่18 ธันวาคม 2527 และเลื่อนไปเป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2528ทนายโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานครั้งแรกวันที่ 28 พฤศจิกายน 2527แต่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2527 ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานโจทก์ต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ โดยอ้างว่าศาลจังหวัดอุทัยธานีนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 18 ธันวาคม 2527 โจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ไม่อาจยื่นบัญชีพยานได้ทัน ขอให้ศาลจังหวัดนครสวรรค์ส่งบัญชีระบุพยานไปยังศาลจังหวัดอุทัยธานี ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุญาต ต่อมาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2528 ทนายโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ศาลต่อจังหวัดอุทัยธานี ดังนี้เมื่อศาลจังหวัดอุทัยธานีได้สั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ฉบับลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2527 ไว้แล้ว แม้โจทก์จะยื่นซ้ำอีกครั้งหนึ่งต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์และการยื่นบัญชีระบุพยานนั้นไม่เข้าเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 10 ก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้บัญชีระบุพยานโจทก์ฉบับลงวันที่4 กุมภาพันธ์ 2528 ซึ่งได้ยื่นไว้ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์เกินกว่า 3 วันเสียไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองใช้เงินค่าก่อสร้างและค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ค้างชำระเป็นเงิน 110,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การว่า ไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 18 ธันวาคม 2527 เวลา8.30 นาฬิกา ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 2 พฤศจิกายน2527 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2527 ทนายโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานศาลชั้นต้นสั่ง “รวม 1 อันดับ” ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2527ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอระบุพยานโจทก์ต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์โดยอ้างเหตุว่าทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ที่ศาลนั้น และขอให้ส่งบัญชีระบุพยานไปยังศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดนครสวรรค์มีคำสั่งว่า”อนุญาต ทำหนังสือแจ้งศาลจังหวัดอุทัยธานี พร้อมส่งคำร้องไปด้วย”และได้ส่งไปตามหนังสือ ที่ ยธ. 1200.312/5582 ลงวันที่ 17ธันวาคม 2527 ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ทนายความของโจทก์ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2528 เวลา 8.30 นาฬิกาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2528 ทนายโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ศาลชั้นต้นสั่งรับบัญชีระบุพยานฉบับนี้ ต่อมาวันที่15 กุมภาพันธ์ 2528 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของศาลจังหวัดนครสวรรค์ที่ได้รับบัญชีระบุพยานตามคำร้องของโจทก์ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2527 และถือว่าคำขอระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2528 เป็นอันตกไปด้วยปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2528แล้วพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความให้ 800 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานโจทก์ฉบับลงวันที 4 กุมภาพันธ์ 2528 แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2527 ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่18 ธันวาคม 2527 อันเป็นการยื่นโดยชอบเพราะยื่นก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ 3 วัน และศาลชั้นต้นได้สั่งรับไว้ ต่อมาเมื่อวันที่14 ธันวาคม 2527 โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์อ้างว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 18 ธันวาคม 2527โจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ไม่อาจยื่นบัญชีพยานได้ทันจึงขอยื่นบัญชีระบุพยานที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ และขอให้ศาลจังหวัดนครสวรรค์ส่งบัญชีระบุพยานไปยังศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้สั่งอนุญาตและได้ส่งบัญชีระบุพยานดังกล่าวไปยังศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้นได้สั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ฉบับลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2527 แล้ว แม้โจทก์จะยื่นบัญชีระบุพยานซ้ำอีกครั้งหนึ่งต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์และการยื่นบัญชีระบุพยานนั้นไม่เข้าเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 10 ก็ตาม ก็ไม่เป็นเหตุให้บัญชีระบุพยานของโจทก์ฉบับลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2528 ซึ่งได้ยื่นไว้ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกที่ศาลสั่งเลื่อนไปเป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2528 เป็นเวลาเกินกว่า 3 วันและศาลชั้นต้นได้สั่งรับไว้แล้วนั้นเป็นอันตกไปด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานโจทก์ฉบับลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2528 แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปนั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

Share