แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยตัวแทนของบริษัท บี. ซึ่งมีภูมิลำเนาในต่างประเทศรับจ้างขนส่งสินค้าของโจทก์ทางทะเล เพื่อส่งให้แก่บริษัท เอ. ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในใบตราส่งระบุให้ธนาคาร เอ็ม. เป็นผู้รับใบตราส่งเมื่อสินค้าไปถึงท่าเรือปลายทางบริษัท บี. ได้มอบสินค้าให้แก่ตัวแทนบริษัท เอ. ไปโดยไม่ได้เวนคืนใบตราส่ง และบริษัท เอ. ก็มิใช่ผู้รับใบตราส่งหรือผู้ทรงใบตราส่ง เช่นนี้ แม้ผู้รับสินค้าจะได้นำหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาค้ำประกันในการรับสินค้าไป การส่งมอบสินค้าดังกล่าวของบริษัท บี.ก็ยังเป็นการไม่ชอบและเป็นการผิดสัญญาต่อโจทก์
เมื่อตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศมิได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งหรือทรงใบตราส่งโดยชอบ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศย่อมต้องรับผิดตามสัญญารับขนแต่ลำพังตนเอง
กฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มีการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีผิดสัญญารับขนทางทะเลจึงใช้อายุความ 10 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยในฐานะตัวแทนของบริษัทเดินเรือทะเลบาร์เบอร์ไลน์เอ เอส คาเรีย ซึ่งมีสำนักงานอยู่ต่างประเทศ ได้รับขนเสื้อผ้า 36 หีบ ราคา 1,521 เหรียญสหรัฐของโจทก์ จากกรุงเทพไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเรือเดินทะเล เพื่อส่งให้แก่บริษัทแมนูแฟคเจอร์เรอร์ แฮนโนเวอร์ทรัสท์ จำกัด หรือตามคำสั่ง โจทก์ได้นำใบตราส่งที่จำเลยออกให้แก่โจทก์ในฐานะตัวแทน พร้อมด้วยตั๋วแลกเงินตามจำนวนมูลค่าของสินค้าและใบกำกับสินค้าส่งมอบแก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด เพื่อเรียกเก็บเงินค่าสินค้าแทนโจทก์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปให้บริษัทแมนูแฟคเจอร์เรอร์ แฮนโนเวอร์ทรัสท์ จำกัด ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเรียกเก็บเงินจากบริษัทอาดอเรนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าอีกต่อหนึ่ง แต่ปรากฏว่า เมื่อผู้ขนส่งได้ขนส่งสินค้าถึงปลายทางแล้ว ตัวแทนของผู้ขนส่งกลับมอบสินค้าดังกล่าวให้ผู้อื่นรับไปโดยไม่มีการเวนคืนใบตราส่ง และมิใช่เป็นการส่งมอบตามคำสั่งของบริษัทแมนูแฟคเจอร์เรอร์ แฮนโนเวอร์ทรัสท์ จำกัด เป็นการผิดสัญญาขนส่ง เป็นเหตุให้บริษัทอาดอเรนท์ จำกัด ไม่ยอมจ่ายเงิน โจทก์ได้เรียกร้องให้จำเลยชดใช้เงินค่าสินค้าให้แก่โจทก์ แต่จำเลยผัดเรื่อยมา ค่าสินค้า 1,521 เหรียญสหรัฐคิดเป็นเงินไทย 31,104.45 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ส่งสินค้ารายพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องได้มีการแก้ไขใบตราส่งตามที่โจทก์ขอ แต่บริษัทเดินเรือทะเลบาร์เบอร์ไลน์ได้ปฏิบัติตามใบตราส่งที่ส่งไปกับเรือซึ่งยังไม่มีการแก้ไข และได้มีการมอบสินค้าให้แก่ตัวแทนของบริษัทอาดอเรนท์ จำกัด ไปแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ผิดสัญญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา จึงต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินค่าสินค้า 31,104.45 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นตัวแทนบริษัทบาร์เบอร์ไลน์จำกัด ซึ่งมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ ทำการรับจ้างขนส่งสินค้าทางทะเลจำเลยรับจ้างโจทก์ขนส่งสินค้าเสื้อสตรีรวมราคา 1,520 เหรียญสหรัฐ โดยนำบรรทุกเรือเดินทะเลของบริษัทบาร์เบอร์ไลน์ จำกัด ไปส่งให้แก่บริษัทอาดอเรนท์ จำกัด ผู้ซื้อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้ววินิจฉัยว่า เมื่อสินค้าถึงท่าเรือปลายทางบริษัทบาร์เบอร์ไลน์ จำกัด ได้มอบสินค้าให้แก่บริษัทอาดอเรนท์ จำกัดไปโดยไม่ได้เวนคืนใบตราส่ง บริษัทอาดอเรนท์ จำกัด มิใช่ผู้รับตราส่งหรือผู้ทรงใบตราส่ง แม้จะได้นำหนังสือสัญญาค้ำประกันของธนาคารมาค้ำประกันในการรับสินค้าไป ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด เป็นเรื่องที่ฝ่ายจำเลยจะต้องไปเรียกร้องเอากับธนาคารผู้ค้ำประกัน การที่บริษัทบาร์เบอร์ไลน์ จำกัด มอบสินค้าให้ตัวแทนบริษัทอาดอเรนท์ จำกัด รับไปจึงเป็นการไม่ชอบและผิดสัญญาต่อโจทก์ ที่จำเลยฎีกาว่าความรับผิดของจำเลยในฐานะตัวแทนสิ้นสุดลงเมื่อเรือบรรทุกสินค้าถึงท่าเรือปลายทาง โจทก์ชอบที่จะฟ้องบริษัทบาร์เบอร์ไลน์ จำกัด ตัวการซึ่งปฏิบัติผิดสัญญาขนส่งนั้น เห็นว่าจำเลยเป็นตัวแทนทำสัญญารับขนส่งกับโจทก์แทนบริษัทบาร์เบอร์ไลน์ จำกัด ตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศจำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง ตราบใดที่จำเลยยังมิได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งหรือผู้ทรงใบตราส่งโดยชอบ ความรับผิดของจำเลยต่อโจทก์ก็ยังไม่หมดสิ้นไป
ปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 วรรคสองบัญญัติว่า “รับขนของทางทะเลท่านให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการนั้น” แต่กฎหมายและกฎข้อบังคับของประเทศไทยว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี ดังนั้น การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ผู้ขนส่งทางทะเลไม่ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 31,104.45 บาท แต่นำสืบว่าเสียหายเป็นเงิน 30,920.40 บาท ศาลพิพากษาให้เท่าค่าเสียหายที่แท้จริง
พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงิน 30,920.40 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์