แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทำมรณะบัตร์ไปยื่นต่อศาลเพื่อแสดงว่าผู้ถูกประกันตายโดยหวังจะไม่ให้ถูกปรับตามสัญญาประกันต่อศาลนั้นเป็นผิดมาตรา 118 ไม่ใช่ มาตรา 157 เมื่อศาลเดิมว่างบทไม่ถูกต้อง แม้จำเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียว ศาลอุทธรณ์ก็แก้วางบทที่ถูกต้องได้ในเมื่อโจทก์มาตรานั้นมาท้ายฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ สมคบกับทำใบมรณะบัตร์ขึ้นเพื่อนำไปแจ้งต่อศาลว่านายโปเฮี้ยงตาย เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกปรับตามสัญญาประกัน โจทก์จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๕๗,๓๑๕,๑๑๘,๖๓,๗๑
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๑๕๖ล๑๕๗,๖๓
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทั้ง๓ มีความผิดมาตรา ๑๑๘,จึงพิพากษาแก้
จำเลยฎีกาว่ามาตรา ๑๑๘ ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยนั้น ศาลชั้นต้นยกเสียแล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะยกมาตรา ๑๑๘ มาลงโทษจำเลยอีกเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดมาตรา ๑๕๗ เพราะตามมาตรานี้จะต้องเป็นเรื่องที่นำมาอ้าง ในคดีที่พิจารณาในศาล ส่วนฐานยักยอกมาตรา ๓๑๕ จำเลยก็มิได้กระทำผิดเช่นกัยเพราะจำเลยมิได้รับมอบหมายลายมือชื่อแต่ประการใด
ส่วนที่จำเลยว่ามาตรา ๑๑๘ ศาลชั้นต้นยกเสียแล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะยกมาลงโทษจำเลยอีกไม่ได้นั้น เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอ้างกฎหมาย เมื่อศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทำผิดตามมาตราใดมาตราหนึ่งตามที่โจทก์อ้างไว้ในข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันก็ยอมจะหยิบยกมาลงโทษจำเลยได้ หาต้องมีอุทธรณ์ไม่ ดังเช่นเรื่องนี้ เมื่อจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ได้ทำผิดตามมาตรา ๑๕๖ – ๑๕๗ แต่ได้ทำผิดตามมาตร ๑๑๘ ก็ย่อมจะแก้ไขให้เป็นคุณแก่จำเลยได้ จึงพิพากษายืน