คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4461/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาร่วมลงทุนทำกิจการบ่อทรายในรูปแบบบริษัทจำกัดกับจำเลยทั้งห้าและ น. ต่อมาจำเลยทั้งห้าดำเนินการจดทะเบียนตั้งบริษัท ท. หลังจากนั้นทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวแก่จำเลยทั้งห้าคืนเงินลงทุนแก่โจทก์จำนวน 400,000 บาท และชำระเงินค่าขายทรายที่มิได้ชำระแก่โจทก์จำนวน 17,937.52 บาท อันเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาร่วมลงทุนทำกิจการบ่อทราย และการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวมีข้อตกลงด้วยว่า เงินผลประโยชน์ค่าขายทรายที่จำเลยทั้งห้าหรือบริษัทดังกล่าวจัดจำหน่ายแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะมีผลกำไรหรือขาดทุน จำเลยทั้งห้ายินยอมที่จะจ่ายเงินผลประโยชน์แก่โจทก์เสมอไป อันถือเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งห้าในการร่วมลงทุน เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนในทางจัดการ โดยให้จำเลยทั้งห้าเป็นฝ่ายบริหารกิจการบ่อทรายจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าด้วยเงินลงทุนร่วมกัน 1,000,000 บาท โจทก์และ น. ร่วมลงทุนคนละ 400,000 บาท แต่ก็มิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริหารในบริษัท เมื่อจำเลยทั้งห้ามิได้ปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าวของโจทก์ที่ขอให้คืนเงินลงทุนและชำระเงินค่าขายทรายที่มิได้ชำระ โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งห้าเป็นคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าคืนเงินลงทุนจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท และเงินผลประโยชน์จากการขายทราย ๑๗,๙๓๗.๕๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในเงินต้น ๔๑๗,๙๓๗.๕๒ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อการและเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดมาฟ้องร้องขอให้โจทก์ถอนหุ้นที่ลงไว้ได้ หากโจทก์ประสงค์จะถอนหุ้นของตนก็ชอบที่จะโอนหุ้น มิฉะนั้นแล้วเท่ากับโจทก์ประสงค์จะลดหุ้นของบริษัทจำกัดลง เป็นการลดทุนซึ่งจะต้องกระทำโดยมติพิเศษของที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๒๔ สำหรับเงินผลประโยชน์นั้นโจทก์ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีต่างหาก จึงไม่รับฟ้อง คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับ ให้รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาคดี
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๓๗ โจทก์ได้ทำสัญญาร่วมลงทุนทำกิจการบ่อทรายในรูปแบบบริษัทจำกัดกับจำเลยทั้งห้าและ น. โดยจำเลยทั้งห้าเป็นผู้ให้สัญญา ส่วน น. เป็นผู้รับสัญญาฝ่ายที่ ๑ โจทก์โดย ร. ตัวแทนเป็นผู้รับสัญญาฝ่ายที่ ๒ สัญญาดังกล่าวมีทั้งหมด ๖ ข้อ กล่าวคือ ข้อ ๑ และข้อ ๒ ว่าด้วยการลงทุนทำกิจการค้าประเภทบ่อทรายและความรับผิดชอบในการจดทะเบียนตั้งบริษัทจำกัดตามเงินทุนที่กำหนดไว้ โดยให้ฝ่ายผู้ให้สัญญาหรือจำเลยทั้งห้าเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ข้อ ๓ ว่าด้วยผลประโยชน์ที่ฝ่ายผู้รับสัญญาหรือโจทก์และ น. จะพึงได้รับในการขายทราย ข้อ ๔ ว่าด้วยราคาที่ดินที่ฝ่ายจำเลยทั้งห้าหรือบริษัทรับซื้อไว้ และหากทรายในที่ดินดังกล่าวถูกขุดนำไปขายหมดแล้วก็จะต้องขายที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์หรือผู้รับสัญญาในราคาไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ข้อ ๕ ว่าด้วยสิทธิของโจทก์หรือฝ่ายผู้รับสัญญาที่ขอรับเงินลงทุนที่จ่ายไปคืนทั้งหมดได้ทันที หากไม่ประสงค์ที่จะลงทุนในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นตามสัญญาต่อไป และข้อ ๖ ว่าด้วยการผิดสัญญาที่ให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้ทันที ซึ่งต่อมาในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ และวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๓๘ จำเลยทั้งห้าก็ได้ดำเนินการจดทะเบียนตั้งบริษัท ท. หลังจากนั้นในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ได้มีหนังสือบอกกล่าวแก่จำเลยทั้งห้าหรือฝ่ายผู้ให้สัญญาคืนเงินลงทุนแก่โจทก์จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท และชำระเงินค่าขายทรายที่มิได้ชำระแก่โจทก์จำนวน ๑๗,๙๓๗.๕๒ บาท อันเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาร่วมลงทุนทำกิจการบ่อทรายข้อ ๕ และการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวก็เกิดจากข้อตกลงในสัญญาดังที่ได้ระบุไว้ในสัญญาข้อ ๑ และข้อ ๒ ตามที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งมีข้อตกลงด้วยว่าเงินผลประโยชน์ค่าขายทรายที่ผู้ให้สัญญาหรือจำเลยทั้งห้าหรือบริษัทดังกล่าวจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าไม่ว่าจะมีผลกำไรหรือขาดทุน ผู้ให้สัญญาหรือจำเลยทั้งห้าก็ยินยอมที่จะจ่ายเงินผลประโยชน์แก่โจทก์หรือผู้รับสัญญาเสมอไปตามความในสัญญาข้อ ๓ อันถือเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งห้าในการร่วมลงทุนเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนในทางจัดการ โดยให้จำเลยทั้งห้าเป็นฝ่ายบริหารกิจการบ่อทรายจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าด้วยเงินลงทุนร่วมกัน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยโจทก์และ น. ผู้รับสัญญาอีกคนหนึ่งร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากถึงคนละ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ทดแทนกัน แต่ก็มิได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริหารในบริษัท ดังนั้น เพื่อความรอบคอบในทางการค้าและการได้ทุนคืนพร้อมผลกำไรที่โจทก์คาดหวังว่าจะพึงได้รับเพียงพอกับเงินลงทุนก็เลยต่างได้ตกลงกันกำหนดข้อสัญญาดังกล่าวขึ้นไว้ เมื่อจำเลยทั้งห้ามิได้ปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าวของโจทก์ที่ขอให้คืนเงินลงทุนและชำระเงินค่าขายทรายที่มิได้ชำระ โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งห้าเป็นคดีนี้ได้ กรณีมิใช่การฟ้องถอนหุ้นที่ลงไว้ในบริษัทจำกัดดังคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น จึงต้องให้โจทก์และจำเลยทั้งห้าว่ากล่าวต่อกันไปก่อนจนสิ้นกระแสความ
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาคดีใหม่.

Share