คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4461/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมเป็นฝ่ายก่อเหตุเข้ามาตบจำเลยในสวนยางพาราของจำเลยแล้วใช้มีดแทงจำเลย จำเลยแย่งมีดจากโจทก์ร่วม แต่แย่งไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนซึ่งจำเลยมีติดตัวยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ถูกที่บริเวณขาขวาของโจทก์ร่วม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณขาขวาของโจทก์ร่วมเพียง 1 นัดในขณะที่โจทก์ร่วมกำลังใช้มีดแทงจำเลยเพื่อไม่ให้โจทก์ร่วมแทงจำเลยต่อไปนั้น เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีและพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายประเสริฐ ยอดโอ ผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนถูกที่บริเวณขาขวาซึ่งมิใช่อวัยวะสำคัญผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 288 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และริบกระสุนปืนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณานายประเสริฐ ยอดโอ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 จำคุก 12 ปีคำให้การจำเลยชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 9 ปี คำขออื่นและข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯให้ยกเสีย ริบกระสุนปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80เสียด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ร่วมเป็นฝ่ายก่อเหตุเข้ามาตบจำเลยในสวนยางพาราของจำเลย แล้วใช้มีดแทงจำเลย จำเลยแย่งมีดจากโจทก์ร่วม แต่แย่งไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนซึ่งจำเลยมีติดตัวยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ถูกที่บริเวณขาขวาของโจทก์ร่วม ดังนั้น การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณขาขวาของโจทก์ร่วมเพียง 1 นัดในขณะที่โจทก์ร่วมกำลังใช้มีดแทงจำเลยเพื่อไม่ให้โจทก์ร่วมแทงจำเลยต่อไปนั้น จึงเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน

Share