คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ให้สายลับ 1 เม็ด กับ 2ชิ้น และต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันเจ้าพนักงานตรวจพบในร้านของจำเลยอีก 3 เม็ด กับ 5 ชิ้น แอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ทั้งหมดนั้นเป็นชนิดเดียวกันและเป็นจำนวนเดียวกันที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกันโดยตลอดหาได้ขาดตอนเมื่อขายไปแล้วไม่ ดังนั้น การที่จำเลยขายและมีไว้เพื่อขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ดังกล่าวจึงเป็นการกระทำกรรมเดียว คือ การขาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ จำนวน1 เม็ด 2 ชิ้น รวมน้ำหนัก 0.18 กรัม อันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ให้แก่จ่าสิบตำรวจอรุณ ขุนนคร ในราคา 40 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และหลังจากกระทำผิดดังกล่าวแล้ว จำเลยได้มีแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ จำนวน 3 เม็ด 5 ชิ้น รวมน้ำหนัก0.54 กรัม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเหตุเกิดที่ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เจ้าพนักงานยึดได้แอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จำนวนดังกล่าว และธนบัตรฉบับละ10 บาท 4 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานใช้ล่อซื้อเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา4, 13, 62, 89, 106 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 13 วรรคหนึ่ง,62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ลงโทษฐานขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ จำคุก 5 ปี ฐานมีแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครอง จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 5 ปี 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 2 ปี 7 เดือน คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 วรรคหนึ่ง, 89 เพียงกระทงเดียวให้จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณานับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าร้อยตำรวจโทเกษมตังคะพิภพ สืบทราบว่าจำเลยลักลอบขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จึงวางแผนจับกุมจำเลยโดยมอบให้จ่าสิบตำรวจอรุณ ขุนนครไปล่อซื้อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จากจำเลย จ่าสิบตำรวจอรุณซื้อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จากจำเลยได้ 1 เม็ดกับ 2 ชิ้นนำมามอบให้ร้อยตำรวจโทเกษม แล้วร้อยตำรวจโทเกษมกับพวกได้ไปที่ร้านจำเลยตรวจค้นพบธนบัตรฉบับละ 10 บาท จำนวน 4 ฉบับที่ร้อยตำรวจโทเกษมมอบให้จ่าสิบตำรวจอรุณนำไปล่อซื้อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์อยู่ในกระเป๋ากางเกงของจำเลย และได้พบแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์อีก 3 เม็ดกับ 5 ชิ้น อยู่ในห้องนอนของจำเลยเป็นของกลาง เห็นว่า ช่วงเวลาตั้งแต่ร้อยตำรวจโทเกษมมอบหมายให้จ่าสิบตำรวจอรุณไปล่อซื้อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จากจำเลยและจ่าสิบตำรวจอรุณนำแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ที่ซื้อจากจำเลยมามอบให้ร้อยตำรวจโทเกษมซึ่งรออยู่ยังที่นัดหมายแล้วต่อมาในเวลาใกล้เคียงกันนั้นเอง ร้อยตำรวจโทเกษมกับพวกก็ไปตรวจค้นพบแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์อีก 3 เม็ดกับ 5 ชิ้นที่ร้านจำเลยนั้น เป็นช่วงระยะเวลาที่ต่อเนื่องกันโดยตลอด ทั้งแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ที่ล่อซื้อได้มา 1 เม็ดกับ 2 ชิ้นและที่ตรวจค้นพบภายหลังอีก 3 เม็ดกับ 5 ชิ้นก็เป็นชนิดเดียวกันแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ทั้งหมดรวม 4 เม็ดกับ 7 ชิ้น จึงเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยขายและมีไว้ในครอบครองในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การที่จำเลยมีแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองอีก 3 เม็ดกับ 5 ชิ้นในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกับที่จำเลยขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 1 เม็ดกับ 2 ชิ้นไปนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่า จำเลยมีแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 3 เม็ดกับ 5 ชิ้น ไว้ในครอบครองเพื่อขายนั่นเอง ซึ่งการขายหรือมีไว้เพื่อขายเป็นความผิดอย่างเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว คือ การขาย การที่จำเลยขายและมีไว้เพื่อขายแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์จำนวนดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันโดยตลอด หาได้ขาดตอนเมื่อขายไปแล้วทันทีดังที่โจทก์ฎีกาไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share